ไม่พบผลการค้นหา
"น.อ.อนุดิษฐ์" ชี้ตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณอันตราย ไล่รัฐบาลกลับไปทำตัวเลขใหม่ แนะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยน่าห่วงอย่างยิ่ง จากตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณอันตรายให้เห็นชัดเจน สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานสูงถึง 4.3 แสนคน แสดงว่ารัฐจะจัดเก็บภาษีได้น้อยลง เมื่อรายได้น้อยลง สถานการณ์ยาเสพติด ฉกชิงวิ่งราวก็จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังระบุการจัดภาษีมูลค่าเพิ่มติดลบ แสดงว่ากำลังซื้อคนไทยลดลงซึ่งมาจาก 2 ปัจจัย คือ พิษเศรษฐกิจแล้ว และคนไทยขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล จึงชะลอการจับจ่ายและลงทุน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นถึง 12.98 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียและเป็นอันดับ 11 ของโลก เฉลี่ยเป็นหนี้หลายแสนบาทต่อคน ขณะที่รัฐบาลหลังการรัฐประหารมีตัวเลขการก่อหนี้เพื่อชดเชยงบประมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2563 วางแผนกู้สูงถึง 4.69 แสนล้านบาท

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก่อหนี้เพื่อชดเชยงบประมาณสูงที่สุดตั้งแต่มีการจัดงบประมาณในประเทศมา มีการใช้งบอย่างมหาศาล แต่คนจนกลับเพิ่มขึ้น มีการลงทะเบียนคนจนสูงถึง 14.5 ล้านคน และยังมีการออกใบอนุญาตใหม่ให้กับอาชีพวณิพก (ขอทาน) ขณะที่เศรษฐี 5 ตระกูลมีความมั่งคั่ง มีสินทรัพย์มากถึง 1 ล้านล้านบาท ร่ำรวยเพราะทำมาหากินกับรัฐบาล ตัวเลขทรัพย์สินเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน เป็นการใช้งบประมาณที่ไม่เท่าเทียม พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เราได้แชมป์ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน 

ขณะเดียวกันหลังการยึดอำนาจ รัฐบาลปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรตกทุกตัว ตั้งแต่ยาง ปาล์ม อ้อย นายกฯ ชอบแก้ปัญหาด้วยวาทกรรม เอาตัวรอดไปวันๆ ข้าวราคาถูกก็บอกให้ไปปลูกหมามุ่ย น้ำท่วมก็ให้ตกปลาขาย ทั้งที่เกษตรกรเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ส่วนร้านค้าตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นร้านเซ้งเหมือนกันหมดแล้ว วันนี้รัฐบาลกำลังใช้เงินผิดประเภท เอาเงินที่มีไปติดอาวุธให้กองทัพ ขณะที่คนไทยกำลังลำบาก นอกจากไม่เกิดรายได้ยังต้องเสียเงินไปกับค่าซ่อมบำรุงจนกว่าจะหมดอายุการใช้เงิน สุดท้ายก็เอาไปใช้เป็นที่อยู่ของปะการัง วันนี้รัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เพราะขาดความรู้ นายกฯ ไม่ชอบพูดความจริง ชอบโกหก ช่วงหาเสียงประกาศนโยบายอย่างหนึ่ง เลือกตั้งเสร็จก็ทำไม่ได้ ส่วนตัวเลขการท่องเที่ยวไตรมาสแรกก็ลดลง นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวเพียง 3.12 ล้านคนถือว่าลดลง คาดว่าไตรมาสก็ที่เหลือก็จะลดลงทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงหายนะที่กำลังจะมา

ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ เสนอว่า รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่วิธีกระตุ้นจนถึงทุกวันนี้กลับเป็นปัญหา เช่น นโยบายแจกเงินผ่านบัตรต่างๆ ตนไม่เห็นด้วย เป็นมาตรการที่ล้มเหลว นักเศรษฐศษสตร์ทั่วโลกมองว่าเป็นมาตรการสิ้นคิด ทำคนเสียวินัยการเงิน ข่าวร้ายคือเมื่อผู้ประกอบการและประชาชนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ต่อให้ถมเงินลงไปเท่าไรก็ยิ่งเปลืองเงินภาษีของพวกเรา การแจกเงินตลอด 5 ปีเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการ มีแต่คนจนลง ส่วนการแจกเงิน 1,000 บาทให้คนไปเที่ยวเมืองรอง ก็เป็นการทำนโยบายที่ฉลาดน้อยที่สุด เมื่อใช้เงินหมดแล้วคนจะเอาเงินที่ไหนเที่ยวต่อ ส่วนชิมช้อปใช้คนเอาเงินไปใช้ครั้งเดียว หมดก็จบ

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบประมาณต้องตอบโจทย์ประเทศ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณอันตรายทุกตัว สำหรับงบกลาง 5 แสนล้านบาทนั้น รัฐบาลใช้งบเพื่อความมั่นคงให้กับรัฐบาลมากกว่าความมั่นคงของประชาชน ล่าสุดรัฐบาลอนุมัติงบกลางสร้างบ้านพักรับรองให้ผู้บัญชาการทหารเรือ แต่คนจ่ายภาษีต้องอดอยาก ไม่มีจะกิน ชาวบ้านฝากมาถามว่า พล.อ.ประยุทธ์มาจากประชาชนจริงหรือไม่ หรือท่านมาจากกองทัพ

น.อ.อนุดิษฐ์ อภิปรายว่า สถานการณ์เศรษฐกิจปีหน้าจะหนักขั้นสาหัส เพราะสงครามการค้าที่เกิดขึ้น การส่งออกที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อการผลิต ลามไปถึงการเลิกจ้าง กำลังซื้อในประเทศหดตัว ภาคบริการก็จะซบเซา ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว ที่นายกฯ คุยว่าเศรษฐกิจดีโดยดูจากทุนสำรองระหว่างประเทศนั้น นั่นไม่ใช่เงินของรับาล ไม่สามารถนำมาใช้อ้างเพื่อการแสดงความมั่งคั่งของรัฐบาลได้ สรุปแล้วคือรัฐบาลจัดสรรเม็ดเงินอย่างสิ้นหวัง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มาทางไหน กลับไปทางนั้น ขอให้กลับไปจัดสรรใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย ชะลอการใช้งบในโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :