ไม่พบผลการค้นหา
ผลสำรวจชี้คนไทยนิยมคอนโดฯ ห้องเดียว จ่ายได้ไม่เกิน 7,000 บาท/เดือน ผู้เชี่ยวชาญเสริม หากยังไม่มีวัคซีนต้านโควิด-19 ธุรกิจจะยังไม่ฟื้น

ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัย ระหว่างเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า คนไทยส่วนใหญ่นิยมเช่าคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนต์รูปแบบ 1 ห้องนอน หรือสตูดิโอมากที่สุดถึง 40% ขณะที่มีบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม/ทาวน์เฮ้าส์ รองลงมาในสัดส่วน 34% และ 26% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ผลสำรวจชี้ว่า ราคาค่าเช่าเฉลี่ยที่ผู้บริโภคยอมจ่ายอยู่ที่ระดับ 6,645 บาท/เดือน เท่านั้น โดยประเมินสถานที่จากระยะทางใกล้ที่ทำงานเป็นหลักด้วยสัดส่วน 73% รองลงมาคือความปลอดภัยและความครบถ้วนของทำเลที่อยู่อาศัยในสัดส่วน 55% และ 52% ตามลำดับ 

ตลาดคอนโดฯ

ภาพใหญ่ยังไม่ฟื้น

กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ชี้ว่า ภาพอสังหาริมทรัพย์โดยกว้าง ทั้งฝั่งผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและฝั่งสถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้ในฐานะผู้แบกความเสี่ยงปรับตัวรัดกุมในการลงทุนมาขึ้น จึงมองว่าการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยตลอดทั้งปี 2563 มีแนวโน้มชะลอตัว จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม 

ผลข้างต้นสะท้อนออกมาในดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับลดมาอยู่ใระดับ 196 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 4% และนับเป็นดัชนีราคาที่ต้ำที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2560  

ขณะที่ดัชนีอุปทานอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 285 จุด หรือคิดเป็นการลดลงถึง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีผลสำคัญจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจนทำให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันด้วยราคา เพื่อเร่งระบายโครงการคงค้างและชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ 

ดัชนีข้างต้นสอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส ธนาคารกรุงไทย (ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS) ที่ประเมินว่าความตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนหายไปราวหนึ่งในสาม โดย 80% ของผู้บริโภคเลือกเลื่อนการซื้อที่อสังหาริมทรัพย์ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมนี้อาจต้องรอถึง 4-5 ปีข้างหน้ากว่าจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19