ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เคาะเลื่อนหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย.นี้ พร้อมมีมติสั่งปิดสถานบริการ-สถานศึกษา-สถานบันเทิง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 14 วัน ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมาตรการเข้มในห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการที่มีประชาชนใช้บริการมาก ด้านนายกฯ ย้ำไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) โดยสรุปว่ายังไม่มีการปิดเมือง หรือ ปิดประเทศ สำหรับชาวต่างชาติที่มาจากประเทศพื้นที่ติดต่ออันตรายและประเทศนอกเหนือจากนั้น ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน, ต้องมีประกันสุขภาพ, ยินยอมใช้แอปพลิเคชันติดตามของรัฐ และเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน ขณะเดียวกันห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ไปต่างประเทศยกเว้นมีเหตุจำเป็น ส่วนสถานศึกษา มีมติปิดมหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชาและสถานศึกษาทุกสถาบัน ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563 เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวมถึงปิดผับสถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ และโรงมหรสพ ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ชั่วคราว 14 วัน

ขณะเดียวกันได้ประกาศปิดสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ในพื้นที่ก ทม.และปริมณฑล ชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และให้งดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น จัดคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา โดยเพิ่มมาตรการป้องกันสำหรับพื้นที่ และสถานที่ที่ยังเปิดบริการ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อในสถานที่ที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจ โดยดำเนินการตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร ให้มีมาตรการป้องกัน เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การคัดกรองอุณหภูมิ การใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งลดความแออัด

พร้อมกันนี้ให้เลื่อนวันหยุดสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.63ออกไปก่อน โดยจะชดเชยวันหยุดให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงาน เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค รวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงานและทำงานที่บ้าน

นายกฯ ไม่ปิด กทม. ยังไม่เข้าระยะ 3

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม ครม. แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ออกมาตรการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยืนยันสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่การระบาดระยะที่3 แต่มีแนวโน้มกระจายมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการระบาดจากกรุงเทพมหานครไปยังพื้นที่อื่นๆ ทุกภาคส่วนต้องทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อหาแนวทางรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) หรือศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ เสนอ ให้ ครม. ออกมาตรการ 6 ด้าน โดยยืนยันไม่มีการปิดเมืองหรือปิดประเทศ 

ด้านสาธารณสุข มีการป้องกันเเละสะกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย ชาวต่างชาติที่เดินทางจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศ และ2 เขตปกครองพอเศษ ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน มีประกันสุขภาพ ยินยอมให้ ให้ใช้แอพพลิเคชั่นของรัฐติดตาม โดยมาตรการนี้จะใช้กับการเดินทางเข้าประเทศทุกทางทั้ง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และตม.จะต้องดูประเทศสุดท้ายก่อนเดินทางเข้าเมืองว่า เป็นเขตติดโรคหรือไม่ และแจ้งกระทรวงมหาดไทย โดยจะมีการกักกันคุมตัว ไว้ดูอาการ 14 วัน ซึ่งจะรวมถึงการเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่องที่ยังไม่ประกาศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย และห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐ วิสาหกิจ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น พร้อมแนะนำให้คนไทยที่พำนักในต่างประเทศชะลอการเดินทางกลับไทย จนกว่าสถานการณ์ระบาดในไทยจะดีขึ้น 

ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน จะเร่งผลิตหน้ากากอนามัย และส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปใช้หน้ากากผ้าและจะนำหน้ากากอนามัยของกลางที่ยึดได้มากระจายให้ประชาชน จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอสำหรับรับมือระยะที 3 

ด้านข้อมูลต้องมาจาก 2 แหล่ง คือ กระทรวงสาธารณสุขและ ศูนย์โควิด-19 ด้านต่างประเทศตั้งทีมไทยแลนด์เพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ

ด้านมาตรการป้องกันปิดสถานที่ ที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นที่อาจติดเชื้อได้ง่ายแม้จะป้องกันแล้ว เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชาทุกสถาบัน ให้ปิดชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.63 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 

ส่วนสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ปิดชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาบ ขณะสถานบันเทิง สถานบริการนวดแผนโบราณ โรงหนัง ในพื้นที่ กทม.ปิด 14 วัน 

ส่วนการจัดคอนเสิร์ต แสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาให้ความเห็นชอบ 

สำหรับสถานที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการ เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ให้ดำเนินการตามมาตราการ ป้องกันที่กระทรวงสาธาณสุขกำหนด 

ประยุทธ์-ครม.-โควิด19ประยุทธ์-อนุทิน-โควิด19


ให้หน่วยงานหามาตรการให้ข้าราชการทำงานที่บ้าน

ขณะเดียวกันเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ให้เลื่อนวันสงกรานต์ 13-15 มี.ค.63 ออกไปก่อน และชดเชยช่วงเวลาที่เหมาะสม เพิ่มความถี่ของการเดินรถขนส่งสาธารณะในประเทศ เพื่อลดความแออัด ป้องกันการแพร่ระบาด งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตราการป้องกัน การแพร่ของโรค รวมถึงจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว 

พร้อมกันนี้ ให้หน่วยงาน พิจารณามาตราการเหลื่อมเวลาทำงาน โดยให้ทำงานที่บ้าน และให้หน่วยงานราชการ ทำแผนงาน เสนอศูนย์โควิด-19 

ด้านมาตราการช่วยเหลือเยียวยา เสนอให้ยกเลิกการเก็บต่าธรรมเนียมจากเจ้าของกิจการ โรงงาน ช่วยเหลือการลดราคาห้องพัก ธุรกิจโรงแรม และในสัปดาห์หน้ากระทรวง ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา หามาตราการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เข้าพิจารณา ครม.สัปดาห์หน้า 

ประยุทธ์-ครม.โควิด19


ย้ำขอยื้อระยะ 2 ให้นานที่สุด วอนประชาชนร่วมมือสามัคคี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จะพยายามอย่างเต็มที่ชะลอระยะ 2 ให้ได้นานที่สุด ให้ถือว่าการแก้ปัญหาโควิด 19 เป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง รัฐบาลประเมินสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดเวลาและติดตามปัญหาเศรษฐกิจรายวันอย่างรอบคอบ ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง สำคัญสุดคือสุขภาพของเราทุกคน หลายอย่างอาจไม่ทันใจ แต่ต้องเข้าใจรัฐบาลต้องทำให้ทุกอย่างมีความสมดุล

"ขอให้ใช้ความร่วมมือ ความรักความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวเอาชนะโควิด-19ให้ได้ การเอาชนะคือทำให้สถานการณ์คลี่คลาย และย้ำว่ามาตรการที่ออกไม่ใช่ปิดกรุงเทพฯ แต่เป็นการควบคุมในระดับที่เข้มข้น"

อย่างไรก็ตาม ช่วงค่ำวันนี้นายกรัฐมนตรีจะมีแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง