ไม่พบผลการค้นหา
'นพ.พรหมินทร์' โพสต์ข้อความตั้งคำถามกรณีออกหมายจับ 'นพ.ทศพร' ปฏิบัติหน้าที่แพทย์ดูแลประชาชนที่ถูกสลายการชุมนุม เป็นความผิดจนต้องถูกหมายศาลจับด้วยหรือ?

จากกรณี พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ชุมนุมคณะราษฎรเพิ่มเติม 9 ราย และศาลแขวงปทุมวันได้อนุญาตออกหมายจับ 5 ราย ยกคำร้อง 3 ราย และให้ออกหมายเรียก 1 ราย เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 โดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีรายชื่อเป็น 1 ใน 5 ผู้ถูกออกหมายจับ ในความผิดฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือมั่วสุมกัน หรือการกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยเหตุเกิดที่บริเวณแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 63 ตั้งแต่เวลา 17.00-22.30 น. นั้น

ล่าสุด นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจ 'Prommin Lertsuridej' ระบุว่า ปฏิบัติหน้าที่แพทย์เป็นความผิดด้วยหรือ? ขอคารวะพี่หมอทศพร เสรีรักษ์ ผู้ต้องหาหมายจับ วันที่ 17 ต.ค. 2563 ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดมิให้มีการชุมนุม ทั้งที่การปรากฏตัวของพี่เขาในที่ชุมนุมอยู่ในเสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงินของชาวแพร่ เครื่องแบบประจำตัวของพี่เขามากว่า 20 ปี ที่สำคัญพร้อมปลอกแขน กากบาทสีขาว บนพื้นสีเขียว สัญลักษณ์แพทย์สนามสากล

จากคลิปภาพของสื่อหลายสำนัก หลายเหตุการณ์ ยืนยันพฤติกรรมของพี่ในฐานะแพทย์ผู้ดูแลประชาชน ในที่นี้คือแนะนำด้านการแพทย์ผู้ชุมนุมที่ถูกสลายการชุมนุมด้วยน้ำผสมสารเคมี ทำให้แสบตา และพฤติกรรมที่ห้ามปรามการกระทำรุนแรงที่ส่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ

ผมรู้จักพี่เขามาตั้งแต่ร่วม 50 ปี เพราะพี่เป็นนักเรียนรุ่นพี่ของผม 1 ปีที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่เรียนดีเยี่ยม เป็นนักกีฬาปิงปองเกือบเป็นทีมชาติ (แต่เพราะไม่สามารถร่วมซ้อมหนักจนอาจเสียการเรียนได้ จึงต้องสละสิทธิ์) แล้วผมตามมาเป็นรุ่นน้องที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่สำคัญไม่เพียงแต่เรียนเด่น เล่นดี แต่เข้าร่วมกิจกรรมประชาธิปไตย ตั้งแต่ช่วงหลัง 14 ต.ค. 2516 จนถึง 6 ต.ค. 2519 ในบทบาทหน่วยพยาบาลเพื่อมวลชน หรือแพทย์สนามในที่ชุมนุม ทั้งยังอยู่หน่วยศิลปะการแสดง แต่งเพลงกลอนลำตัดประชาธิปไตยแสดงเมื่อครั้งเป็นนักศึกษาอายุ 20 ต้น ๆ

หลังจบการศึกษาก็รับราชการเป็นแพทย์ที่จังหวัดแพร่ จนเป็นที่รักของประชาชน จึงได้รับการเลือกตั้งมาเกือบทุกสมัยกว่า 20 ปี ยกเว้นครั้งที่ผ่านมาที่สมัครในนามพรรค ทษช. ที่ถูกยุบพรรคไปก่อนการเลือกตั้ง แต่พี่ไม่เคยละทิ้งความเป็นจักษุแพทย์ ยังให้บริการตรวจ และผ่าตัดตาให้ประชาชนในทุกโอกาสที่เป็นไปได้

“พี่ดำรงชีวิตในฐานะแพทย์ที่ดี และเป็นผู้แทนราษฎรที่ประชาชนรักมาตลอด มาครั้งนี้ไปอยู่ดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยและบาดเจ็บมาจากการชุมนุม เป็นความผิดจนต้องถูกหมายศาลจับด้วยหรือ”




ข่าวที่เกี่ยวข้อง :