ไม่พบผลการค้นหา
น.อ.อนุดิษฐ์ เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับฟังชาวบ้านผู้ประสบภัยธรรมชาติ ชี้ ตอนน้ำท่วมมีหลายหน่วยงานลงมาช่วยเหลือ แต่กังวลว่าหลังจากน้ำลด ไม่มีผลผลิตขาย และผลจากภัยแล้งซึ่งกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ พวกเขาจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจากการลงพื้นที่หลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัยในภาคอีสาน พบว่าปัญหาของประชาชนยืดเยื้อ เรื้อรัง และยาวนาน หลายคนอาจจะคิดว่าการลงพื้นที่ครั้งจะพบแค่ปัญหาน้ำท่วมและภัยพิบัติจากพายุโพดุล แต่แท้ที่จริงกลับพบปัญหาเรื้อรัง นั่นคือ ปัญหาภัยแล้ง เกษตรกรหว่านข้าวแล้วไม่สามารถปลูกข้าวได้ จนพันธุ์ข้าวหมด ซึ่งผู้ประสบภัยแล้งพยายามเรียกร้องการชดเชยที่เป็นธรรม แต่ขณะนี้การชดเชยยังไม่เกิด

ซ้ำร้าย หลังจากภัยแล้งก็ต้องมาเจอกับพายุพร้อมด้วยมวลน้ำมหาศาล ทำให้พื้นที่หลายจังหวัดภาคอีสานน้ำท่วม เช่น จังหวัดยโสธร 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วม นั่นแปลว่าผลผลิตข้าวของจังหวัดยโสธรจะเหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่ากับว่าปีนี้เกษตรกรส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรไปขายเลย

ขณะเดียวกัน ตอนนี้น้ำยังท่วมอยู่ ชาวบ้านยังไม่มีความกังวลในการฝ่าวิกฤต เพราะมีหลายหน่วยงานลงมาช่วยเหลือ แต่ภายหลังจากน้ำลด ไม่มีผลผลิตขาย และผลจากภัยแล้งจะกระทบกันต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทย นอกจากจะลงมาให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่แล้ว ยังจะเก็บสิ่งเหล่านี้ไปสะท้อนต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตนต้องวิงวอนและฝากรัฐบาลและทุกหน่วยงานให้รับผิดชอบ พี่น้องชาวอีสานก็เป็นพี่น้องเช่นเดียวกับคนไทยทุกภาค สิ่งใดที่จะเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวอีสานก็เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน

“พี่น้องชาวอีสานเป็นพี่น้องคนไทยเช่นเดียวกัน การปฏิบัติกับพี่น้องชาวอีสาน ผมก็อยากวิงวอนให้รัฐบาลให้ความสำคัญพี่น้องชาวอีสานเหมือนกันกับทุกๆ ภาค พี่น้องภาคเหนือก็ประสบภัยจากพายุโพดุลและภัยแล้งเหมือนกัน จะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือจะเป็นพี่น้องภาคไหนๆ ก็แล้วแต่ ถ้าเกิดเขาได้รับความเดือดร้อน ได้รับความยากลำบาก แล้วก็ประสบกับปัญหาภัยพิบัติแบบนี้ ผมว่ารัฐบาลจะนิ่งดูดายแบบนี้ แล้วก็ปฏิบัติงานล่าช้าแบบนี้ไม่ได้”

น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พี่น้องส่วนใหญ่กังวลว่าหลังจากน้ำลด พวกเขาจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร เพราะตอนนี้หนี้สินเยอะแยะมากมาย อาชีพที่เคยทำมาหากินก็ไม่มี เงินที่จะไปต่อทุนประกอบอาชีพ ถ้าหากภาครัฐยังปฏิบัติงานล่าช้า โดยเฉพาะการจ่ายเงินชดเชยให้ไปประกอบอาชีพต่อ จะเป็นเหตุที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าประเทศก็จะมีปัญหามากขึ้น

ส่วนเรื่องกรรมาธิการสามัญพรรคเพื่อไทยดูแล 10 คณะ ได้แก่ กมธ.การพลังงาน, กมธ.การศึกษา, กมธ.ป.ป.ช. หรือ กมธ. ป.ป.ช., กมธ.การศึกษา จัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ, กมธ.การต่างประเทศ, กมธ.กิจการองค์กรศาล รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน, กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ, กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค, กมธ.การอุตสาหกรรม และ กมธ.ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ซึ่ง น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณ และคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. จะมีบทบาทสำคัญในการติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด และคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ประเด็นภัยแล้ง โรคระบาด ศัตรูพืช และภัยพิบัติ ฝ่ายค้านก็จะตามจี้เรื่องนี้จากรัฐบาลต่อไป 

ขณะที่การมาลงพื้นที่ ตนก็ได้รับเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนถึงนโยบายรัฐบาล เวลามาหาเสียงก็บอกแบบหนึ่ง แต่พอมาวันนี้ก็ดูเหมือนพยายามที่จะกลับคำหรือไม่ทำตามคำพูด ตนก็ต้องสะท้อนเสียงเหล่านี้ไปที่รัฐบาลเหมือนกัน ทุกวันนี้ฝ่ายค้านไม่มีโอกาสได้บริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น รัฐบาลได้สัญญาอะไรไว้กับประชาชนก็ต้องรับผิดชอบ นำเอานโยบายต่างๆ ที่ประกาศไว้มาทำให้เกิดผล ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะเกิดความยากลำบากและผิดหวัง เช่น เรื่องราคาพืชผลการเกษตร ทั้ง ยางพารา ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด ประชาชนเขาจำได้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะรักษาสัญญาและรักษาคำพูดที่ประกาศเป็นนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองเอาไว้