ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องถนนหมู่ที่ 4 บ้านห้วยเกี๋ยง เชื่อมหมู่ 14 บ้านโป่งน้อย ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 20 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นเนินสูงชัน เป็นถนนดินแดง ซึ่งมีประชาชนกว่า 400 ครัวเรือน ที่ใช้ประโยชน์ในถนนเส้นนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาจำนวนมาก แต่ในช่วงฤดูฝน ถนนลื่น ทำให้ประชาชนสัญจรไปมาไม่ได้ เด็กนักเรียนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ไม่สามารถขนย้ายพืชผลทางการเกษตรจากถนนเส้นนี้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาความเดือดร้อนมานานหลายปี โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบถนนเส้นนี้อยู่ในโครงข่ายโครงการหลวงขุนวาง เขตพื้นที่ อบต.แม่วิน แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ตนจึงขอไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ช่วยดูแลถนนสายนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมา เมื่อกรมทางหลวงชนบทจะทำถนน แต่หน่วยงานในกำกับดูแลก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้น กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะนั่งทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ แต่ไม่ได้ลงพื้นที่ การก่อสร้างถนนก็จะมีปัญหาตามมาอยู่ตลอด 

สนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีวันสำคัญอยู่ 2 วันคือ วันที่ 10 ส.ค.เป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน และวันที่ 12 ส.ค.เป็นวันแม่แห่งชาติ ตนเชื่อว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะผู้แทนของพรรคภูมิใจไทยในทุกเขต ได้ไปร่วมกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนทั้ง 2 งานในวันสำคัญ ซึ่งงานนี้มีทั้งผู้นำท้องถิ่นและกลุ่มแม่บ้าน ตลอดจนพี่น้องประชาชนร่วมงานจำนวนมาก แต่ตนได้รับการร้องเรียนและสอบถามจากผู้นำชุมชนว่า รู้สึกอึดอัดใจกับกระแสการเมืองในปัจจุบันโดยเฉพาะการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดที่ชัดเจน และเป็นการทำร้ายทำลายจิตใจของคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 

โดยผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งได้ฝากมาว่า ช่วยสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะจัดการอย่างไร โดยขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับคนที่ผิดก็ต้องรับผิด คนที่ไม่ผิดก็ดูแลกันไป ต้องการเห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นที่สำคัญ หากมีความผิดก็ขอให้เรื่องนี้ไปจบที่เรือนจำ

ฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับสถานีรถไฟรางคู่ขอนแก่นว่า เป็นสถานีรถไฟรางคู่แห่งแรกของประเทศไทย ด้านบนสวยงามมาก สูงเท่าตึก 5 ชั้น มองเห็นวิวและทิวทัศน์เมืองขอนแก่นโดยรอบ แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่คือที่พักของผู้โดยสาร ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น หากฝนตก ประชาชนก็จะไม่มีที่หลบฝน คงต้องวิ่งกรูกันมาข้างล่างเพื่อหลบฝน ซึ่งต้องผ่านบันไดเลื่อน ผ่านช่องลิฟต์ ที่แออัดอย่างมาก ทั้งที่ในอนาคต สถานีรถไฟแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อินโดจีน ประชาชนจะใช้งานสถานีรถไฟแห่งนี้วันละ 10,000 คน จึงขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยทำที่พักผู้โดยสารเป็นห้องกระจกเปิดโล่ง เพื่อใช้ในการหลบแดดหลบฝน ยอมรับว่าสถาปัตยกรรมสวยงามแต่ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความโกลาหลและเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารได้