ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ เคารพการตัดสินใจ 4 กุมารลาออกสมาชิก พปชร.ยอมรับคุย 'สมคิด' ตลอด เจ้าตัวยันพร้อมทุกเรื่อง ชี้การปรับ ครม.ต้องหารือพรรคร่วมรัฐบาล เลือกคนดีนั่งทุกกระทรวง ยืนยันวิ่งเต้นตำแหน่งรมต.ไม่ได้ ย้ำ 3 ป.ไม่มีแตกแยก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่าเคารพการตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยถือเป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของตนเองก็ต้องเตรียมการสำหรับการเดินหน้าของรัฐบาลต่อไป

ซึ่งวันนี้ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบบริหารราชการแผ่นดิน และเชื่อมั่นในตนเอง ที่จะพาประเทศชาติผ่านพ้นเวลานี้ไปให้ได้ โดยในส่วนของการปรับ ครม. ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นวิถีทางการเมือง ทั้งนี้การปรับ ครม.ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เวลานี้ยังไม่มีคำตอบให้ ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี หรือใครจะออก ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จึงขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ขณะนี้อยู่ในช่วงวิกฤติที่ทุกคนต้องทำงานไปก่อน และเมื่อถึงเวลาปรับ ครม. ก็ต้องปรับ ใครจะเข้ามาก็ต้องรักษาระเบียบที่ตนเองได้สร้างไว้ รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 

แย้ม 'สมคิด' พร้อมรับสภาพ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายกฯ จะปรับ ครม.ในเดือนก.ย.นั้น นายกฯ ชี้แจงว่า ไม่เคยพูด คงเป็นการตีความเองของสื่อ ส่วนช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมในการปรับครม.นั้น ก็คงจะเริ่มพิจารณาตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป แต่จะปรับเมื่อไรนั้น อยู่ที่ตนเองเมื่อไรก็เมื่อนั้น พร้อมเห็นว่า สัดส่วนของการปรับ ครม. ก็จะประกอบด้วย บุคคลจากพรรคการเมือง และมีคนนอกส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกับตนเองที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นสัดส่วนก็จะต้องมีจากพรรค โดยจะต้องพูดคุยกัน การจะใช้คนนอกมาเป็นรัฐมนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนเองขอโควต้านี้มา ทำให้รัฐมนตรีหลายคนเป็นคนนอกที่เข้ามาทำงานให้ตนเอง 

นายกฯ ยังยอมรับว่า ทั้ง 4 คน ที่ลาออก เป็นโควต้ารัฐมนตรีของตนเอง ตั้งแต่เริ่มตั้ง ครม. ดังนั้นเมื่อปรับ ครม.ก็ต้องไปดูว่าโควต้าเหล่านี้ยังเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งต้องหารือ สัดส่วน ครม.ต่อไปว่าจะมีลด หรือเพิ่มในส่วนไหน พร้อมระบุว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะปรับเท่าที่จำเป็น ใครที่ทำงานดีอยู่แล้ว ก็ให้ทำต่อ แต่ทั้งนี้ก็มองว่า ครม.ทุกคนทำงานดีทั้งหมด แต่เรื่องของวิถีทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยการบริหารของครม.ชุดนี้ผ่านมา 1 ปี ก็คงต้องปรับแนวทางใหม่

นอกจากนี้ นายกฯ ยังยอมรับว่า ได้พูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดูแลการทำงานทั้ง 4 คน มาโดยตลอด โดยนายสมคิดก็ระบุว่า "พร้อมทุกเรื่อง"  

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มักมีกระแสข่าวการปรับ ครม.พุ่งไปที่การปรับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนเองก็ต้องพิจารณา เพราะมักมีกระแสข่าวออกมาทั้งสองทาง ซึ่งสื่อก็รู้ดีว่าข่าวมาจากไหนมีการใช้วิธีอย่างไร บางทีก็พูดไปเรื่อย แล้วสื่อนำไปพาดหัวข่าว แต่ที่สุดแล้วตนเองจะตัดสินใจเอง ว่าใครถูก ใครผิด อย่างไรก็ตามมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือความสงบเรียบร้อย และหากต้องปรับ ครม.ก็ต้องมองในภาพรวม เพราะเกี่ยวข้องในหลายกระทรวง ส่วน 4 คนนี้จะกลับมาร่วม ครม.หรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกลไกทางการเมือง 

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่า ได้เลื่อนการประชุม ครม.เศรษฐกิจที่เดิมกำหนดเป็นวันที่ 10 ก.ค. ออกไป แต่มีการประชุมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแทน เพื่อรับฟังแนวความคิด เพื่อนำเข้า ครม.เศรษฐกิจต่อไป เป็นการทำงานแบบ new normal พร้อมยืนยันว่า การปรับ ครม. ไม่ต้องวิ่งเต้น เพราะตนเองตัดสินใจเอง และมองคนนอกไว้เช่นกัน ทั้งเรื่องสังคม สาธารณสุข เศรษฐกิจ ความมั่นคง

ส่วนจะมีการยอมรับใน ครม.ใหม่หรือไม่ ก็อยู่ที่ความน่าเชื่อถือ แต่จะเลือกคนที่ดีมาทำหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครสามารถทำให้ 3 ป.แตกแยกกันได้ ดังนั้นไม่ว่าข่าวจะออกมาเป็นอย่างไรให้ฟังตนเองเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม