พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 2/2563 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. 2563 และสิ้นสุดในวันที่ 19 ก.ย. 2563 เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที

โดยเฉพาะเป็นการเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีรวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

สำหรับการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้อำนาจพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และการป้องกันและแก้ไขอันเกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีความแตกต่างจากการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ

อย่างไรก็ตาม กอ.รมน.ภาค 4 ยังคงเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งสองประเภทโดยดำเนินการร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่