ไม่พบผลการค้นหา
น้ำ-พัชรพร มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 เปิดใจ หลังกลุ่มผู้เห็นต่างโจมตีว่า 'ชังชาติ' และถูกเหยียดสีผิว ชนวนเหตุจากการตอบคำถามไล่รัฐบาล ยืนยันกลั่นจากใจ เพราะอยากเห็นประเทศพัฒนา

การตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้าย บนเวทีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 รอบตัดสิน ที่ ฮอลล์ 100 เมื่อค่ำคืนวันที่ 19 ก.ย.2563 ที่ผ่านมา ของ น้ำ-พัชรพร จันทรประดิษฐ์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020

“จากสถานการณ์ของผู้ชุมนุม ขณะนี้ส่อเค้าความรุนแรงยิ่งขึ้น หากคุณมีโอกาสได้พูดคุย อยากจะพูดกับฝ่ายใด ระหว่างผู้ชุมนุม หรือ รัฐบาล และพูดอะไร เพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น” เธอตอบว่า “จากใจนะคะ ขอเลือกฝ่ายชุมนุมค่ะ เพราะว่าเรามีสิทธิ์มีเสียงในการแสดงความคิดเห็น และเราอยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศชาติของเราค่ะ มากกว่านั้น อยากจะบอกรัฐบาลด้วยนะคะว่า If you calling this country as Thailand, We need the real democracy, and moreover, We need you to get out of the country (ถ้าคุณเรียกประเทศนี้ว่าประเทศไทย เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง และยิ่งไปกว่านั้น เราต้องการให้พวกคุณออกจากประเทศนี้) 

กลายเป็นชนวนดรามา สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับรัฐบาลและกลุ่มผู้เห็นต่าง ออกมาใช้สื่อสังคมออนไลน์แสดงความคิดเห็น กล่าวหาเธอชังชาติ อีกทั้งยังพาดพิงเรื่องความสวย และเหยียดสีผิว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มิสแกรนด์ไทยแลนด์คนใหม่ เปิดใจกับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ว่า เธอเคารพสิทธิส่วนบุคคล การที่มีคนเห็นต่าง และมองเธอในแง่ลบนั้น ถือเป็นสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของแต่ละบุคคล และเธอก็ไม่มีความคิดที่จะไปโต้ตอบหรือละเมิดสิทธินั้น แต่ส่วนตัวยืนยันว่า คำตอบที่เธอตอบบนเวทีประกวดนั้นเป็นคำตอบที่ออกมาจากใจ เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น 

“ตามหลักความเป็นจริง หนูก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง เราก็อยากให้ประเทศชาติของเราพัฒนา หนูโอเคกับทุกอย่างหมด แต่มันไม่สามารถไฟเขียวได้ตลอดเวลา ไม่สามารถไฟแดงตลอดเวลา ต้องทำให้ทุกอย่างไม่สะดุดเหมือนกัน น้ำพูดในฐานะของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หนูต้องขอโทษเขาด้วยถ้าสมมติ ความคิดของหนูมันไม่ได้ ทำให้ใครบางคนประทับใจ แต่ว่าหนูก็แสดงความรู้สึกของหนูผ่านคำถามนั้น และคำถามนั้นคือหนูต้องเลือก ซึ่งหนูอยากให้ทุกอย่างมันดีค่ะ แต่สิ่งที่หนูพูดจากใจหนูนะคะ คือ ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะว่าความรุนแรงมันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย” 

จากดรามาตอบคำถาม ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองร้อนระอุ นำไปสู่การบุลลี่ความสวย เหยียดสีผิว สาวจากจังหวัดระนอง วัย 22 ปี บอกว่า ที่ผ่านมาเธอประสบกับเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ไม่เคยคิดว่าเป็นปัญหาในการดำเนินชีวิต 

มิสแกรนด์ไทยแลนด์.jpg

เธอเชื่อว่าผู้หญิงมีความสวยทุกคน มีความเลอเลิศในแบบฉบับของตัวเอง ความงามในอุดมคติของเธอไม่ได้นิยามแค่ความสวยภายนอก ทรงผม รูปร่าง อายุ หรือ สีผิว แต่เป็นเรื่องของการตระหนักในตัวตน การแสดงความมั่นใจส่วนบุคคล มีความคิด และทัศนคติที่ดี สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้

“หนูโดนเรื่องนี้มาตลอดชีวิต เรื่องบุลลี่สีผิว แต่หนูแก้อะไรมันได้หรือเปล่า หนูแก้อะไรมันไม่ได้ หนูไม่สามารถขาวกว่านี้ได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือยอมรับในสิ่งที่หนูมี บางคนชอบผิวขาว ผิวแทน ผิวเหลือง แล้วแต่มุมมองของคน สิ่งที่อยากให้ทุกคนยอมรับคือ สวยมันต้องสวยมาจากความคิดก่อน มันถึงจะสามารถขับเคลื่อนหลายสิ่งหลายอย่างได้ ทุกวันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ไปไกล วันรุ่งขึ้นมีจมูกใหม่ มีตาสองชั้นได้ แต่ถ้าความคิดไม่ได้ ในความคิดหนูก็ไม่ได้มองว่าคนนั้นเป็นคนสวย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและความคิดมันต้องไปด้วยกัน น้ำว่าคุณค่าของคนมันอยู่ที่ความคิด ความคิดเปลี่ยนอะไรได้หลายอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้คนมีพลังขับเคลื่อนชีวิตเขาได้ ผลักดันให้เขาสู้ได้ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า”  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :