ไม่พบผลการค้นหา
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยส่งคำพิพากษาคดีเสื้อแดง ให้แกนนำคณะก้าวหน้า หลังออกมาเคลื่อนไหวตามหาความจริง กรณีสลายชุมนุมเสื้อแดง

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงกรณีคณะก้าวหน้า ยิงเลเซอร์ตามหาความจริง ในการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ปี 2553 โดยมีการพาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น โดยมีรายละเอียดผ่านเฟซบุ๊กดังนี้

ส่งความจริงการชุมนุมปี 53 ถึง ธนาธร-ปิยบุตร

เมื่อวานผมได้ส่งจดหมายพร้อมเอกสารความจริงเกี่ยวกับการชุมนุมปี 53 ให้คุณธนาธรและคุณปิยบุตร ใจความว่า “ตามที่ผมนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง “คณะก้าวหน้า จะก้าวไปไหน ระวังพาพรรคก้าวไกลซวย จะจบไม่สวยแบบเดิมๆ” 

มีเนื้อหาสรุปโดยย่อว่า ผมรู้สึกไม่สบายใจต่อการเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้าที่ใช้โอกาสเดือนพฤษภาคม นำเหตุการณ์พฤษภาทมิฬมาเชื่อมโยงกับความสูญเสียระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 และกล่าวหาอดีตนายกอภิสิทธิ์ อย่างไม่เป็นธรรม 

ทั้ง ๆ ที่สองเหตุการณ์นี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รายละเอียดปรากฏตามเนื้อความในเฟซบุ๊กและตามข่าวที่สื่อได้นำเสนอ ด้วยความเคารพในความคิดเห็นทางการเมืองของท่าน แต่ผมเห็นว่าความจริงที่ท่านตามหาและนำเสนอต่อสังคมนั้นยังขาดข้อมูลที่ครบถ้วนและยังเจือปนด้วยอคติและผลประโยชน์แอบแฝงทางการเมืองอยู่มาก 

ผมจึงขอส่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1699/2560, คำพิพากษาฎีกาที่ 4288-4289/2560 และคำพิพากษาฎีกาที่ 6646-6647/2561 ซึ่งได้วินิจฉัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการก่อเหตุของผู้ชุมนุมไว้อย่างละเอียด และรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

ซึ่งมีผลสรุปเกี่ยวกับการชุมนุมในปี 2553 ไว้อย่างละเอียดครบถ้วนเช่นเดียวกัน เพื่อให้ท่านได้ศึกษาทำความเข้าใจประกอบในการตามหาความจริงให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ (นายเชาว์ มีขวด) อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์”

อย่างไรก็ตาม นายเชาว์ไม่ได้ระบุว่า ข้อวินิจฉัยเกี่ยวกับ "พฤติกรรมการก่อเหตุของผู้ชุมนุม" และรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องใด

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีแค่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ออกมาเรียกร้องการลงโทษผู้กระทำผิดในการปราบปรามการชุมนุมเมื่อเดือน พ.ค.2553 เพราะองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่าง 'แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล' ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลอย่าปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล

โดยเนื้อหาตอนหนึ่งของแถลงการณ์แอมเนสตี้ฯ ระบุว่า ภายหลังเหตุความรุนแรง รัฐบาลประกาศในวันที่ 21 พ.ค. 2553 ว่าจะมี “การสอบสวนอย่างเป็นอิสระต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างการประท้วง” “ในลักษณะที่โปร่งใส” แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ผู้บัญชาการทหาร หรือเจ้าหน้าที่ทหารรายใดที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนั้นถูกดำเนินคดี ในขณะที่ได้มีการดำเนินคดีอาญากับแกนนำและผู้ชุมนุมประท้วงบางส่วนแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อมีการละเมิดและปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน ผู้ที่คาดว่ามีส่วนรับผิดชอบทางอาญาทั้งหมดต้องถูกนำมาลงโทษตามการพิจารณาที่เป็นธรรมของศาลพลเรือน หากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความผิดฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน การลงโทษทางวินัยหรือตามมาตรการของฝ่ายบริหารอาจไม่เพียงพอ และไม่สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเน้นย้ำว่า การขาดความยุติธรรม ความจริง และการเยียวยาจากรัฐบาลสำหรับผู้ที่ถูกสังหารและทำร้ายระหว่างการชุมนุมในปี 2553 เน้นให้เห็นปัญหาการลอยนวลพ้นผิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยังเกิดขึ้นต่อไป รวมทั้งรัฐบาลเพิกเฉยต่อกฎหมายและมาตรฐานระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมและการใช้กำลัง เหตุที่ทางการไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากการละเมิดเหล่านี้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: