ไม่พบผลการค้นหา
โรงภาพยนตร์และแหล่งความบันเทิง ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ปิดทำการแล้ว ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน 2 สัปดาห์ เพื่อพยายามชะลอการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

นับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.63 สถานที่ต่างๆ ในกรุงจาการ์ตา เช่น โรงหนัง บาร์ ลานโบว์ลิ่ง สปาและร้านนวด จะถูกปิดเป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่มีการปิดโรงเรียนเป็นเวลาสองสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่มาตรการใหม่นี้ ซึ่งครอบคลุมการเรียกร้องให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน ก็ยังคงถูกมองว่ามีความเข้มงวดน้อยว่าการล็อคดาวน์ที่ใช้ในประเทศเพื่อนบ้าน ท่ามกลางความกังวลในผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งว่าอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากถึง 260 ล้านคน ยังคงดำเนินการไม่เพียงพอในการควบคุมไวรัส

ด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กล่าวแสดงความเสียใจระหว่างพิธีเปิดโรงพยาบาลฉุกเฉินที่หมู่บ้านนักกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ในวันนี้ หลังสมาคมการแพทย์เผยว่ามีแพทย์และพยาบาล 6 ราย เสียชีวิตจากการติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยผู้นำอินโดนีเซียระบุว่า อยากขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ที่ทำงานหนักและอุทิศตัวเพื่อจัดการการระบาดของโรคโควิด-19 

ล่าสุด อินโดนีเซียพบผู้ป่วยยืนยันแล้ว 579 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 49 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงจาการ์ตา ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาได้ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่แพทย์ได้ทำงานจนเกินขีดความสามารถแล้ว โดยประธานาธิบดีวิโดโดได้ระบุว่า แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ในภูมิภาคที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะได้รับโบนัสตั้งแต่ 5-15 ล้านรูเปียห์ หรือกว่า 9,900-29,700 บาทต่อเดือน ซึ่งนอกจากกรุงจาการ์ตาแล้ว ยังมีภูมิภาคชวาตะวันออกที่อยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 

รายงานระบุว่า ท้องถนนกรุงจาการ์ตาในวันนี้ค่อยข้างเงียบกว่าปกติ มีอาสาสมัครนักเรียกประจำตามทางข้ามแยกใหญ่ๆ หลายจุดเพื่อคอยชูป้ายเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่ที่คนหนาแน่นและขอให้อยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งได้โพสต์ภาพที่ถ่ายจากภายในรถไฟเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แสดงให้เห็นภาพผู้คนเบียดเสียดกันเพื่อเดินทางไปทำงาน เช่นเดียวกับผู้โดยสารเต็มสถานีรถไฟต่างๆในกรุงจาการ์ตาจากความสับสนในวันแรกของการใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน

โดยรายงานระบุว่า มีการตัดลดชั่วโมงให้บริการขนส่งในกรุงจาการ์ตาทั้งรถไฟโดยสารและรถบัส จนทำให้บรรดาพนักงาน รวมถึงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ภาคบริการต่างๆ แสดงความไม่พอใจบนโซเชียลมีเดียว่าความวุ่นวายเหล่านี้เป็นผลมาจากการจำกัดบริการขนส่งสาธารณะจนทำให้หลายคนไปทำงานสาย ซึ่งโดยปกติจำนวนผู้โดยสารระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของกรุงจาการ์ตามีมากถึง 100,000 คนต่อวัน แม้จำนวนดังกล่าวจะลดลงมาประมาณ 1 ใน 4 ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่การลดชั่วโมงให้บริการส่งผลให้ประชาชนต้องเบียดเสียดกันในรถไฟ ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินรถไฟต่างๆ จะให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ในขณะที่โดยปกติระบบรถไฟฟ้าชานเมืองของจาการ์ตาให้บริการตั้งแต่ตี 4 ถึงเที่ยงคืน ส่วนเอ็มอาร์ทีก็ให้บริการตั้งแต่ตี 5 ถึงเที่ยงคืน

รถไฟฟ้าจาการ์ตา_รอยเตอร์
  • ภาพผู้โดยสารเบียดเสียดกันภายในขบวนรถไฟในกรุงจาการ์ตา วันที่ 23 มี.ค. 63

ผู้สังเกตการณ์จำนวนหนึ่งแสดงความกังวลต่อการปัญหาการทำงานประสานกันระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นของจาการ์ตากับรัฐบาลประธานาธิบดีวิโดโดในเรื่องการจัดการปัญหาไวรัสแพร่ระบาด เพราะถึงวิโดโดจะสนับสนุนมาตรการเว้นระยะทางสังคม (Social Distancing) แต่ก็ไม่ประกาศล็อคดาวน์กรุงจาการ์ตาอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง ในขณะที่คู่แข่งทางการเมืองอย่างนายอานิส บาสเวดัน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาเลือกใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่า และพยายามผลักดันให้มีการปิดเมือง 

แม้อินโดนีเซียมีการกระจายอำนาจตัดสินใจจากศูนย์กลางไปสู่ท้องถิ่น แต่การตัดสินใจในเรื่องยุทธศาสตร์เช่นความมั่นคง และอำนาจในการประกาศปิดเมืองระหว่างการระบาดใหญ่ของโรค ยังคงอยู่ในมือประธานาธิบดี 


อ้างอิง CNA/The Straits Times/Reuters