ไม่พบผลการค้นหา
กำลังเร่งตรวจสอบกรณีครูที่จ.ประจวบเสียชีวิต หลังฉีดสลับซิโนแวค-แอสตร้า เป็นรายแรกหลังฉีดไป 84,000 คน ภาพรวมทั้งประเทศตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีน มีการแจ้งเสียชีวิตหลังฉีด 229 รายไม่พบผลจากวัคซีนโดยตรง แต่มีโรคร่วม

จากกรณีมีข่าวการเสียชีวิตของ น.ส.พงศ์ภัค ศรัทธาโสภณ อายุ 39 ปี ครูเจ้าของโรงเรียนสอนพิเศษเสียชีวิตที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากฉีดวัคซีน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญและจะแจ้งผลเมื่อทราบชัดเจน

นพ.โสภณระบุว่า มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง มี BMI 31 ฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นซิโนแวค เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เข็มที่ 2 ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังมีการอนุมัติให้ฉีดสลับซิโนแวค-แอสตร้า ห่างกัน 3 สัปดาห์ จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่เร็วภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีดเข็ม 2 ซึ่งจนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดมากกว่า 84,000 คน โดยกรณีครูอายุ 39 ปี เป็นเป็นรายแรกที่มีการเสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน

“ขณะนี้จึงยังไม่สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนจะได้นำข้อมูลที่ตรวจสอบแล้ว และมีข้อมูลเพียงพอมานำเสนอ แต่ที่จะสรุปเรื่องต้นคือวัคซีนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดในประเทศไทยนั้น เป็นวัคซีนที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูงจากการที่เราฉีดมาก 10 กว่าล้านโดส เพียงแต่รายนี้เป็นการฉีดวัคซีนสลับชนิดและเกิดเหตุการณ์เสียชีวิตก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้ง ส่วนผลการสรุปจะมีการเรียนให้ทราบต่อไป” นพ.โสภณกล่าว

229 เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน

นพ.โสภณยังระบุถึงภาพรวมว่า ขณะนี้ประเทศไทยดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดตั้งแต่เดือน มี.ค. จนถึงปัจจุบันฉีดไปแล้ว 14.8 ล้านโดส มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับผู้รับวัคซีนและต่อมามีรายงานการเสียชีวิตประมาณ 229 ราย คิดเป็น 16 ต่อ 1 ล้านคนที่ฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ได้รับวัคซีนอยู่ในระยะ 1 เดือนหลังรับวัคซีน ทั้งนี้มีการติดตามข้อมูลและผลการพิจารณาสาเหตุ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีการแถลงอยู่เป็นระยะ ส่วนใหญ่เมื่อคณะกรรมการพิจารณาข้อมูลโดยละเอียด ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีน อาการที่เกิดขึ้น ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงผลการชันสูตรศพ ไม่พบว่ามีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนโดยตรง แต่มีโรคร่วม ซึ่งที่พบบ่อยคือโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง อีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณา (ตามตารางที่นำเสนอระหว่างแถลงข่าวระบุว่า 76 ราย)