ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ประกาศผู้บัญชาการสงครามโควิด ขอโทษประชาชนเลื่อนฉีดวัคซีน แจงขั้นตอนบริหารสถานการณ์​-กระจายวัคซีน ศบค.เป็นศูนย์​หลัก ยันจัดหาวัคซีนได้ 100 ล้านโดสแน่นอนแล้ว รับร้อนใจปัญหาหนี้ของคนไทย เตรียมออกมาตรการระยะสั้นลดภาระให้กับประชาชน

วันที่ 15 มิ.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การฉีดวัคซีนซึ่งถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ โดยทั่วประเทศวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการกระจายวัคซีนกว่า 7 ล้านโดส และได้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 6.5 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นมาสามารถฉีดวัคซีน 2 ล้านโดส ภายใน 2 สัปดาห์ โดยหากวัคซีนเข้ามามากกว่านี้ก็น่าจะฉีดได้มากกว่านี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ ซึ่งตนต้องขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ คนที่อยู่หน้างาน จิตอาสา บุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาล ในการดูแลรวมไปถึงอำนวยความสะดวก

ขณะที่ปัจจัยสำคัญในการระดมฉีดวัคซีนคือการจัดสรรวัคซีน โดยจะต้องมีการจัดสรรและกระจายไปทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและพอเพียง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับฟังจากการข่าวหรือการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจและเข้าใจว่าภาครัฐไม่ได้จัดสรรวัคซีนเพียงพอ หรือภาครัฐไม่ได้ประสานงานได้อย่างดีพอ ซึ่งตนได้รับทราบมาโดยตลอดและจะเร่งแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน และพยายามหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและสบายใจขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือวัคซีนที่ทยอยเข้ามา นี่คือข้อเท็จจริง หากมีเข้ามามากก็จะสามารถส่งมอบไปได้ และจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีในระยะต่อไป

นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงภาพรวมการดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ว่าแต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ คงไม่ใช่ตนแต่เพียงผู้เดียว แต่ ศบค. จะเป็นหน่วยงานสูงสุด และมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ในศบค. ทั้งส่วนการเมือง ข้าราชการ รัฐมนตรี โดยศบค.รับผิดชอบการกำหนดนโยบาย และส่งมอบวัคซีนให้กับแต่ละจังหวัด โดยมีหลักการสำคัญคือ ทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนตามสัดส่วนจำนวนประชากร และเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาด และกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวการศึกษา 

โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งจัดสรรวัคซีนในรอบนั้นๆ กระจายวัคซีนไปทั่วประเทศได้ทันที โดยไม่รอช้า โดยอาจมีการตรวจสอบบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งจะมีการประสานข้อมูลของแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่จะเป็นผู้กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาล แต่ละจุดฉีดในจังหวัดนั้น จะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด พร้อมกับจัดการจัดส่งให้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่มีจนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและราบรื่นที่สุด โดยวัคซีนเป็นการทยอยส่งมาเป็นรอบ ไม่ใช่ได้มาครั้งเดียว 6 ล้านหรือ 10 ล้านโดส ตั้งแต่ต้นเดือน

แจงสูตรการจัดวัคซีนหากไม่พอฉีดให้จัดสรรผู้สูงอายุ-กลุ่มเสี่ยงก่อน

นายกรัฐมนตรีชี้แจงย้ำว่า หลักการหรือสูตรในการจัดสรรวัคซีนที่ตนกำหนดนโยบายและสั่งการไป ประกอบด้วย เมื่อมีวัคซีนมากระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบแล้วต้องส่งไปยังจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ได้รับเพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจพิจารณาจังหวัดที่ได้ให้รับตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ศบค.พิจารณาว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยวัคซีนที่ส่งต่อในแต่ละจังหวัดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่ต้องนำมาคำนวณ ทั้งจำนวนประชากรจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้จองในระบบหมอพร้อมและระบบของแต่ละจังหวัด อาชีพเสี่ยงพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นทุนในเรื่องการส่งออก

หลังจากนี้หากวัคซีนที่ได้คำนวณแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีดในระยะในรอบนั้น ให้แต่ละจังหวัดจัดสรรให้กับผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเสี่ยง ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และหากมีความจำเป็นจะต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีนจะต้อง ต้องยึดแบบเดิมไว้ก่อน โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่และจัดการฉีดวัคซีนตามแบบเดิมทันที ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน คงเข้าใจตรงกันแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการตามนี้ เพราะเป็นมติของที่ประชุมร่วมกันในเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายได้มีความพยายามตั้งใจและดำเนินการอย่างทุ่มเทเพื่อจะให้บริการกับประชาชนอย่างดีที่สุดซึ่งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก คือการนำส่งวัคซีนซึ่งต้องใช้เวลาทั้งการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพ และไม่อาจกำหนดได้แน่นอนทุกครั้งว่าได้รับวันใดเวลาใด เพราะไม่ได้รับครั้งเดียวจำนวนมากๆ ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกก็เจอปัญหานี้ แต่ประเทศไทยก็ยังมีข้อได้เปรียบ ที่อยู่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตวัคซีนของ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าอยู่ในประเทศ ทำให้การขนส่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนปัจจัยที่จะต้องมีการปรับแผนการกระจายวัคซีนตามการแพร่ระบาด ทำให้มีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯได้มีการเริ่มฉีดควบคุมการแพร่ระบาด และเหตุผลหนึ่งคือเศรษฐกิจ ที่จะต้องลดการปิดโรงงาน เพราะจำเป็นให้ภาคการผลิตให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทำให้อาจกระทบกับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนบางส่วน ต้องยอมรับว่าภารกิจครั้งนี้มีหน่วยงานจำนวนที่เกี่ยวข้อง จำนวนมาก ซึ่งอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน จะได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานต้องมีความพยายามในการแก้ไขปรับปรุงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจของประชาชน

ประยุทธ์ C0-6D4011E3CB85.jpeg

ขออภัยปัญหากระจายวัคซีน เชื่อชนะสงครามโควิดได้แน่

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และผอ.ศบค. ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในสงครามโควิดในครั้งนี้ ต้องขออภัยกับปัญหาที่เกิดขึ้นและขอรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งตนได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวันทุกเวลาอยู่แล้ว เพราะนี่คือวาระแห่งชาติ ที่ตนได้ประกาศออกไป ต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จเพื่ออนาคตของประเทศชาติ ซึ่งปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยอมรับว่าทั่วโลกมีวัคซีนใดจำกัดทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดการ ซึ่งการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลทำให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถจะจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นได้ขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลได้จัดหาวัคซีนเพียงพอกับคนไทยทุกคน และขณะนี้สามารถจะทำวัคซีนได้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสแล้ว สำหรับประชาชน 50 ล้านคน หรือ 70% ของคนทั้งประเทศ พร้อมกับเตรียมการของปีหน้าไปด้วย และจะมีการเพิ่มปริมาณการฉีดของคนไทยในประเทศ เนื่องจากมีศักยภาพในการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว พร้อมขอให้ติดตาม ว่าจะช่วยกันอย่างไร 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเราพูดจากันไม่ดี เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล คนจำนวนหลายหมื่นคนที่ทำงานอยู่หน้างาน ก็จะท้อแท้หมดกำลังใจ ต้องประสานงานกันให้ได้ระหว่างคนระดับกลางระดับล่าง และทำความเข้าใจกับประชาชนไปด้วย ตนขอร้องสื่อทุกประเภท กล่าวย้ำว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีและผอ. ศบค. ตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองตลอดมา ขอย้ำว่าการทำงานทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส จะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพและความทุ่มเทเสียสละของบุคลากร เราจะต้องชนะสงครามโควิดในครั้งนี้อย่างแน่นอน

ร้อนใจหนี้จาก กยศ.กว่า 3.6 ล้านคน เตรียมออกมาตรการลดดอกเบี้ย

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้ยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนได้นำเรื่องการปัญหาการแก้ไขหนี้สินของประชาชนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบ ซึ่งตนได้มองเห็นถึงปัญหาประเทศของเราประชาชนยังมีหนี้จำนวนมาก มีหนี้ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งจะมีผลต่อทั้งชีวิตของเขา เราได้พยามแก้ไขมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้นอกระบบ วันนี้ต้องเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น ให้ปฎิบัติตามกฏหมายทุกประการ ต้องให้ครอบคลุมการแก้ปัญหาในภาพรวมทั้งระบบให้ครอบคลุมหนี้สินกลุ่มต่างๆ ที่ตนร้อนใจมากที่สุดคือหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 3.6 ล้านคน ผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน หนี้ครู 2.8ล้านบัญชี หนั้เช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ 27.7 ล้านบัญชี หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9ล้านบัญชี และปัญหาหนี้สินอื่นๆ ของประชาชน 51.2ล้าน บัญชี 

ซึ่งเราได้มีการกำหนดมาตรการต่างๆ ออกมาทั้งมาตรการระยะสั้น โดยจะทำให้เกิดขึ้นได้ภายใน 6 เดือน เช่น การลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน สินเชื่อรายย่อย ทั้งของครู ข้าราชการ สหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้คุ้มครองความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ และขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการกำกับดูแลบัตรเครดิตสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถอีกด้วย ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน เพื่อลดการดำเนินคดีต่อประชาชน เช่น หนี้ กยศ. หนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หนี้สหกรณ์ และให้เพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยเอสเอ็มอี จัดให้มีซอฟท์โลน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและจัดโรงรับนองเพิ่มขึ้น เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยแต่มีที่ดินจำนวนจำกัดอยู่ให้เข้าถึงสินเชื่อเหล่านี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนระยะต่อไปคือการเร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง การให้ความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ คนเกษียณที่มีภาระหนี้สินโดยต้องออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัย ค่าเดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก การจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ เพื่อการดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อรายย่อยเป็นการเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงินเพื่อชะลอการฟ้อง อำนวยความสะดวกให้การฟื้นฟูนี่รายบุคคลที่มีเจ้าหนี้หลายราย สำหรับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันตนมีข้อมูลว่า ก่อนปี 2557 มีอัตราเพิ่มขึ้นเดือนละ 88,000 ล้านบาท และจากปี 2557 จนถึง 2564 มีการเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 50,000 ล้านบาท 

เผย ครม.เห็นชอบลดเงินสมทบประกันสังคมเหลือ 60% ระยะ 6 เดือน

นอกจากนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ยังมีประเด็นสำคัญคือการลดอัตราเงินสมทบสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคมหรือกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพอิสระ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบลดเงินสมทบลงเหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิมเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายผลประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 รวมทั้งประชาชนมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวดีคือศาลล้มละลายกลาง ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทยแล้ว ซึ่งตนขอแสดงความยินดีและขอบคุณทุกคนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ร่วมกันเดินหน้าการบินไทยให้ประสบความสำเร็จ 

เตือนคนไทยดูบอลยูโรไม่ต้องเป็นหนี้สิน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับฟุตบอลยูโร ทุกคนคงมีความสุขขึ้นมาบ้างในการชมฟุตบอล จึงอยากให้ทุกคนที่ชมได้ใช้สิ่งเรานี้กระตุ้นเตือนให้รักการออกกำลังกาย ซึ่งตนได้ติดตามเรื่องพนันออนไลน์ ตนอยากให้มีความสุขโดยไม่ต้องไปเป็นหนี้สิน และวันนี้ได้มีการดำเนินคดีไปหลายรายแล้วเกี่ยวกับเรื่องพนันออนไลน์ จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังด้วย นอกจากนี้ตนยังได้ติดตามการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นลีก 2021 ที่ประเทศอิตาลี โดยขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ทีมวอลเลย์บอลหญิงทุกคนที่ได้ร่วมมือกันจัดทีมไปแข่งขัน ทำให้ได้รับชื่อเสียงและการยอมรับจากนานาประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผลการแข่งขันเป็นที่น่าพอใจซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้นักกีฬารุ่นน้องที่เป็นนักกีฬาทีมชาติต่อไปและมีความเข้มแข็งทางด้านร่างกายและจิตใจเพิ่มพูนประสิทธิภาพของตัวเองเพื่อให้ทุกคนมีความสุขจากการแข่งขันของท่าน

ยัน ครม.มุ่งมั่นแก้ปัญหา ย้ำไม่ละเว้นเรื่องทุจริต

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าตน และรัฐมนตรีทุกคน ยังมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการร่วมกันแก้เป็นไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่ประเทศของเราและทั่วโลก ที่ยังไม่พ้นจากวิกฤต โควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี มีการวางแผนเตรียมความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจปากท้อง ให้พ้นจากความยากจน ทุกอย่างต้องทำประกอบกันไปถ้า เราสาละวนกับโควิดอย่างเดียวก็คงไม่ได้ สิ่งสำคัญคือสุขภาพของประชาชน และการจัดเตรียมการประเทศในช่วง New Normal และสิ่งต่างๆที่จะเป็นอนาคตซึ่งต้องทำควบคู่ คู่ขนานกันไป ซึ่งถือว่าเราทำได้ดีในระดับต้นๆของโลก จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจเรื่องดังกล่าวนี้

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าเรื่องการทุจริตต่างๆ ตนได้ให้มีการตรวจสอบทุกเรื่องหากมีเรื่องใดที่เสนอเข้ามาถึงสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรีจะต้องมีการดำเนินการสอบสวนซึ่งหลายเรื่องเกิดมาก่อนรัฐบาลของตน แต่ได้รับการตรวจสอบในสมัยรัฐบาลตน ตามกฏหมายซึ่งตนจะละเว้นใครไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นขอยืนยันในเรื่องเจตนารมย์ที่เราประกาศเป็นวาระแห่งชาติเรื่องการตรวจสอบปัญหาการทุจริต ส่วนปัญหายาเสพติด ซึ่งวันนี้แนวเรื่องยาเสพติดสนใจให้แนวนโยบายใหม่เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรึกษาหารือกันโดยจะต้องมีการเข้าสำรวจทุกตำบลทุกหมู่บ้าน ชุมชน คนที่ติดยาเสพติดจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อนำสู่การบำบัดรักษา ลดภาระของพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งจะต้องดูว่าสามารถทำได้แค่ไหนอย่างไร ในส่วนของการขายการจำหน่ายของนายทุนจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเป็นไปตามกฏหมายทุกประการรวมไปถึงการยึดทรัพท์ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายอย่างจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องทำไปในช่วงเวลาเดียวกันไม่ว่าการเมืองความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมการปฎิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูป ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจว่าถ้าเราทำ 1 ปี สำเร็จบางคงการได้ผลสัมฤทธิ์ออกมา แต่บางโครงการต้องผูกพันต่อเนื่อง 1-2 ปี และการงบประมาณต้องเพิ่มขึ้นบางโครงการต้องใช้ถึง 5 ปี ซึ่งเป็นการนำชุดยุทธศาสตร์มาบริหารจัดการเรื่องการจัดทำแผนงานโครงการให้สอดคล้องตามระยะเวลาแล้วจะเกิดผลสัมฤทธิ์กับประชาชนมากน้อยเพียงใดซึ่งคือตัวประเมินของเรา แต่สำคัญต้องไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด ต้องมีการตรวจสอบขึ้นมา รายละเอียดของแผนการมีหรือไม่หากไม่เพียงพอก็อนุมัติให้ไม่ได้ จึงขอให้ศึกษาเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคต้องมีความระมัดระวัง เพราะช่องทางการรายงานการตรวจสอบร้องเรียนมีเยอะแยะตนไม่ได้ปิดกั้นเรื่องเหล่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง