ไม่พบผลการค้นหา
ภาคอีสาน ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการ ‘ปักธงชัยชนะ’ ในสนามเลือกตั้งใหญ่มาตั้งแต่อดีต เพราะเป็นภาคที่มี ส.ส.มากที่สุด ดังเห็นปรากฏชัดผ่านชัยชนะของ “พรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน” มาถึง “พรรคเพื่อไทย” ที่ครองใจ “ชาวอีสาน” มายาวนาน

ซึ่งในอดีตเอง “นายกฯทักษิณ ชินวัตร” ได้วางขุนพลภาคอีสาน คือ “เสธ.แอ๊ด”พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม พร้อมทั้งดึงสาย “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” หรือ “ป๋าเหนาะ-เสนาะ เทียนทอง” มาร่วมทัพ จึงทำให้ “ไทยรักไทย” ปักธงภาคอีสานได้เบ็ดเสร็จ

ทั้งนี้ “โมเดล” ดังกล่าว ได้ถูกพรรคอื่นๆ ทำการ “ถอดรหัส” ทั้งพรรคก้าวไกลที่ลงพื้นที่ภาคอีสาน ในพื้นที่ที่ไม่ใช่เขตเมืองมากขึ้น รวมทั้ง “ขั้วอำนาจ 3ป.” ก็ลงพื้นที่ภาคอีสานมากขึ้น นับตั้งแต่เริ่มมีการคลายล็อค 

ทั้ง “3ป.” ลงพื้นที่ภาคอีสานมาแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จ.อุบลราชธานี ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.สระแก้ว ซึ่งหากดูจังหวัด ก็จะพบว่าเป็นไปตามการ “แบ่งขั้ว” ภายใน พปชร. ไปในตัว ท่ามกลาง “ศึกวัดพลัง” ระหว่าง “2ป.”

สำหรับ จ.ขอนแก่น เป็นพื้นที่ของ “เอกราช ช่างเหลา” ที่เปรียบเป็น “สหายผู้กอง” ที่รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. มานาน และได้รับมอบหมายเป็รหนึ่งในคนดูแลพื้นที่ภาคอีสาน พปชร. แต่ผลงานเลือกตั้งปี 2562 ถือว่ายังไม่ถึงเป้า ดังนั้นจึงทำให้มีแนวคิดการตั้งพรรคใหม่ของ ร.อ.ธรรมนัส จึงมีลักษณะ “อีสานล้านนา” ก่อนหน้านี้

ส่วน จ.สระแก้ว เป็นถิ่น “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” บ้านใหญ่เทียนทอง โดยมี 1 รัฐมนตรี คือ “ครูเหน่ง”ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ หลาวสาวป๋าเหนาะ ซึ่งใน จ.สระแก้ว มี ส.ส.เทียนทอง ที่อยู่ทั้งฟาก พปชร. และพรรคเพื่อไทย สำหรับ “ตรีนุช” เป็น รมต. สาย พล.อ.ประวิตร 

หากย้อนไปในอดีต พล.อ.ประวิตร ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “ป๋าเหนาะ” ยุค รบ.ไทยรักไทย ที่เป็นอีกแรงหนุนดันเป็น ผบ.ทบ. อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร เติบโตมาจาก ร.12 พัน.3 ฝรอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ จ.สระแก้ว ก่อนมาโตที่ พล.ร.2 รอ. ปราจีนบุรี

ประวิตร ธรรมนัส C51ACA58-4118-4014-AAE1-EFC287912594.jpeg

นอกจากนี้ พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดาของ “บิ๊กน้อย”พล.อ.วิชญ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พปชร. ขณะที่ พล.อ.ยศ เป็น แม่ทัพภาคที่ 1 คือผู้ที่ชักชวน “ป๋าเหนาะ” เข้าสู่ถนนการเมือง ลงสมัครเลือกตั้ง ในนามพรรคชาติไทย ซึ่ง “ป๋าเหนาะ” เป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลายประเภทในนาม “ส.เทียนทอง” เป็นที่รู้จักในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และ จ.สระแก้ว

จึงเป็น “สายสัมพันธ์” ที่ซับซ้อนระหว่าง “บิ๊กป้อม-ป๋าเหนาะ-บิ๊กน้อย” รวมทั้งการเชื่อมไมตรีกับ “ขั้วเจ้าพ่อวังน้ำเย็น” ด้วย ดังนั้นการที่ “บิ๊กป้อม” ไป จ.สระแก้ว จึงเป็นอีก “จังหวัดยุทธศาสตร์” ของ พปชร.

ประวิตร __721625103.jpg

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเดินทางไป จ.นครราชสีมา ที่ถือว่า พปชร. เจาะได้หลายเก้าอี้ และกระจายหลายพรรค จากแรงหนุน “บ้านใหญ่รัตนเศรษฐ” ที่หนุนนำให้ “วิรัช” ส่งทายาท “อธิรัฐ” มานั่ง รมช.คมนาคม ซึ่ง “สายวิรัช” ก็คือ “อดีต 4ช.” ที่อยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส นั่นเอง

สำหรับ จ.ชัยภูมิ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปลงพื้นที่ถูกมองว่าเป็น “ถิ่นสามมิตร” เพราะมี ส.ส.ชัยภูมิ สายสามมิตร คือ “สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์” ส่วน จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่หลากกลุ่มทางการเมือง ซึ่งแตกมาจากอดีตไทยรักไทย ในฝั่ง พปชร. มีทั้งกลุ่มสามมิตร สายเจ้าพ่อวังน้ำเย็น จึงเป็นอีกจังหวัดที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกมา

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทั้ง “2ป.ประวิตร-ประยุทธ์” กำลังเดินยุทธวิธี “แบ่งแยกแล้วปกครอง” ที่อยู่ภายใต้เงา “3ป.” ภายใต้ “ศึกวัดพลัง” จึงมีความ “เหนือชั้น” ซ่อนอยู่ แต่ก็เป็นบทพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า “เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้” ไปในตัวด้วย

นอกจาก “ขุนพลการเมือง” แล้ว ก็ต้องดู ‘แม่ทัพนายกองทหาร’ ด้วย หลังการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของ “กองทัพภาคที่ 2” หลังมีการเปลี่ยนแม่ทัพใหม่ คือ “บิ๊กปอง”พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 เป็น ตท.23 เพื่อน “บิ๊กโต”พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 โดย พล.ท.สวราช เติบโตมาจาก พล.ร.3 โคราช กับ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จ.อุดรธานี ที่ดูแลพื่นที่อีสานตอนบน และ “บิ๊กมืด”พล.ท.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย เติบโตมาจาก พล.ร.6 ขึ้นเป็น แม่ทัพน้อยที่ 2 (ตท.24)

สวราชย์ แสงผล BF3E-01BB2F65EAC7.jpeg

(พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่2)

นอกจากนี้ยังมี พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ผบ.พล.ร.6 ร้อยเอ็ด ดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เติบโตมาจากกรมทหารราบที่ 16 จ.ยโสธร และ พล.ต.พรชัย มาหลิน ผบ.พล.ม.3 ขอนแก่น และ พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว เป็น ผบ.พล.ร.3

ซึ่งขุนพล “ทหารลูกข้าวเหนียว” ยังไม่มีใครมีไลน์ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เพราะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ ผบ.ทบ. โตมาจากกองทัพภาคที่ 1 ระหว่างสายบูรพาพยัคฆ์กับวงศ์เทวัญ สลับกับสายรบพิเศษ และในวันนี้ ผบ.ทบ. ต้องเป็น “ทหารคอแดง” ด้วย

แม้ ทภ.2 จะไม่ได้คุมกำลังรบที่ใหญ่ที่สุดของ ทบ. หรือคุม “ขุมกำลังปฏิวัติ” หลัก แต่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในทางการเมืองช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็น “พื้นที่สีแดง” ที่เป็นขั้วตรงข้ามกับ “กองทัพ” ตั้งแต่ยุค “คนเสื้อแดง” หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549

ในวันที่ “สมการการเมือง” เปลี่ยนไป มี “ขั้วอนาคตใหม่” เข้ามาอยู่ในสมการนี้ ที่ต่างหวัง “ปักธง” ภาคอีสาน รวมทั้ง “ขั้วอำนาจ 3ป.” ที่เจาะอีสานถี่ขึ้น ในสภาวะที่ “เพื่อไทย” ถูกรุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog