ไม่พบผลการค้นหา
ขณะที่ข้อมูลเงินเดือนของซีอีโอบริษัทชั้นนำหาได้ง่ายภายในไม่กี่คลิ๊ก ตัวเลขเดียวกันของผู้บริหารประเทศกลับมีความซับซ้อนและกระจัดกระจายกว่ากันมาก แม้ไม่ใช่ข้อมูลลับแต่อย่างใด

ตามรายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์พบว่า ในปี 2563 'แชค ไรชิสัน' จาก Paycom บริษัทผู้ให้บริการบัญชีเงินเดือนและเทคโนโลยีทรัพยากรมนุษย์ออนไลน์จากสหรัฐฯ ได้ค่าตอบแทนรายปีสูงที่สุดในโลก ถึง 211.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6,900 ล้านบาท

ตัวเลขข้างต้นใกล้เคียงกับงบประมาณไทยปี 2565 ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งยังมากกว่ากระทรวงพาณิชย์, กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน 


สูงสุด 52 ล้านบาท/ปี

แม้ค่าตอบแทนของผู้นำรัฐบาลที่สูงที่สุดในโลกจะเทียบไม่ได้กับตัวเลขข้างบน - ไม่แม้แต่จะเข้าไปอยู่ใน 20 อันดับแรกด้วยซ้ำ แต่ต้องนับว่ารายได้ต่อปีที่สูงที่สุดถึง 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 52 ล้านบาท ไม่ใช่เงินที่น้อยเช่นกัน 

ตามข้อมูลจาก 24/7 WALLst บริษัทข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากเอกสารราชการของแต่ละประเทศไปจนถึงข้อมูลจากองค์การระหว่างประเทศซึ่งอ้างอิงรายได้ผู้นำรัฐบาลทั่วโลกในช่วงปี 2561-2562 พบว่า 'ลี เซียนลุง' นายกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์ คือผู้นำที่มีรายได้สูงที่สุดจากภาษีประชาชน ด้วยค่าเฉลี่ยเดือนละ 4.3 ล้านบาท  

สิงคโปร์ - ลีเซียนลุง - รอยเตอร์ส
  • 'ลี เซียนลุง' นายกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์

ตัวเลขข้างต้นนับว่าสูงกว่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรสิงคโปร์ถึง 20 เท่า เนื่องจากชาวสิงคโปร์มีรายได้เฉลี่ย 86,810.78 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี หรือประมาณ 2.8 ล้านบาท 

'แครี หลัม' ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ครองอันดับที่สองด้วยผลตอบแทนรายปี ที่ 568,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18.5 ล้านบาท น้อยกว่าผู้นำจากสิงคโปร์กว่า 35% ขณะรายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวฮ่องกงอยู่ที่ 57,081.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปีที่ผ่านมา 'แครี หลัม' เคยให้สัมภาษณ์เรื่องที่เธอต้องรับเงินเดือนเป็นเงินสดและมีธนบัตรจำนวนมหาศาลกองอยู่ที่บ้าน หลังกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์คว่ำบาตรเธอ ซึ่งส่งผลต่อสินทรัพย์ของเธอ

โดยข้อมูลล่าสุดในปี 2563 พบว่า เงินเดือนของเธอเพิ่มขึ้นมาเป็น 670,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี หรือประมาณ 21.8 ล้านล้านบาท

แคร์รี หล่ำ ฮ่องกง
  • 'แครี หลัม' ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

ขณะที่ผู้นำรัฐบาลในลำดับที่หนึ่งและสองยังคงอยู่ในตำแหน่ง ผู้ครองอันดับที่ 3 และ 4 เป็นเพียงอดีตไปแล้ว 'อูเอลี เมาเรอร์' อดีตประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส มีรายได้อยู่ที่ 482,958 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี ขณะที่ 'โดนัล ทรัมป์' อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับเงินราว 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี คิดเป็นมูลค่า 15.7 และ 13 ล้านบาท ตามลำดับ 

ปัจจุบันยังไม่พบข้อมูลว่าเงินเดือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ​ เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จึงอาจคาดได้ว่า 'โจ ไบเดน' ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ จะได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงตัวเลขเดิม

2019-05-15T134011Z_479052730_RC1170165170_RTRMADP_3_SWISS-POLITICS.JPG
  • 'อูเอลี เมาเรอร์' อดีตประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิสหรือสวิตเซอร์แลนด์
AFP โดนัลด์ ทรัมป์ Donald Trump
  • 'โดนัล ทรัมป์' อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ

'สกอตต์ มอร์ริสัน' นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียปิดท้ายในลำดับที่ 5 ของผู้นำที่มีรายได้สูงที่สุดของโลกประจำปี 2562 ด้วยตัวเลข 378,415 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี ราว 12.3 ล้านบาท มากกว่าค่าแรงทั่วไปของชาวออสเตรเลียราว 7 เท่า 

AFP - สก็อต มอร์ริสัน นายก ออสเตรเลีย
  • 'สกอตต์ มอร์ริสัน' นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย

การคำนวณรายได้ผู้นำข้างต้นนี้ถูกเปลี่ยนจากค่าเงินท้องถิ่นให้เป็นสกุลเงินกลางอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อความชัดเจนในการเปรียบเทียบ โดยผู้คำนวณใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 13 เม.ย.2561 

ผู้คำนวณยังเลือกตีความ 'ผู้นำประเทศ' ในฐานะผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ประมุขของประเทศ จึงไม่ได้คำนวณรายได้ของผู้นำประเทศที่อยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อย่าง กาตาร์, บรูไน หรือซาอุดีอาระเบีย 

ขณะที่ประเทศซึ่งปกครองด้วยระบอบราชาธิป​ไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional monarchy) แบ่งเป็นสองกรณี คือกรณีทั่วไปที่ราชวงศ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง จะใช้ข้อมูลสาธารณะของรายได้ผู้นำรัฐบาลตามปกติ ส่วนกรณีที่รางวงศ์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลเช่นประเทศคูเวต, บาห์เรน หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มักไม่มีข้อมูลเปิดเผยชัดเจน จึงไม่อาจนำมาจัดอันดับได้ 

อ้างอิง, USA TODAY, Gov.sg, BI, BBC, Fortune