บางกอกแอร์เวย์ส เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยแล้ว โดยจะระดมเงินทุนซื้อฝูงบินใหม่ 43 ลำในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งปรับปรุงสนามบินสมุย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
BA เข้าตลาดหลักทรัพย์วันนี้(3 พ.ย.) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบิน 'บางกอกแอร์เวย์ส' หรือ BA ได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยราคาเปิดขายครั้งแรก อยู่ที่ 23 บาท 20 สตางค์ จากราคาเปิดจอง 25 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าจอง 7.20% และถือเป็นหุ้นไอพีโอตัวที่ 3 ของปีนี้ ที่เปิดซื้อขายต่ำกว่าจอง
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ เชื่อว่า การเปิดซื้อขายหุ้นของบางกอกแอร์เวย์ส จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้พัฒนาฝูงบินเพิ่มขึ้น จาก 26 ลำในปัจจุบัน เป็น 43 ลำในอีก 5 ปี ด้วยงบประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท รวมทั้งการก่อสร้างโรงซ่อมอากาศยานที่สุวรรณภูมิ , ปรับปรุงสนามบินสมุย โดยเฉพาะบริเวณอาคารผู้โดยสาร 900 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ สนามบินยังเพียงพอรองรับบริการผู้โดยสาร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับการให้บริการของบางกอกแอร์เวย์ส ยังเน้นทำการบินในประเทศไทยและภูมิภาค โดยได้เพิ่มเส้นทางบินใหม่ อาทิ เชียงใหม่-ภูเก็ต , เชียงใหม่-อุดรธานี เชียงใหม่-ย่างกุ้ง และ เชียงใหม่-มัณฑะเลย์ และปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 มีแผนจะเปิดทำการบินที่อินโดนีเซีย และศึกษาการเปิดเส้นทางบินไปจีนตอนใต้เพิ่มเติม รวมทั้งจะเพิ่มการเชื่อมต่อจุดบินในประเทศมากขึ้น เชื่อว่า หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว น่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทขยับขึ้น
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า สนามบินสมุย ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีผู้โดยสารจองในระบบขณะนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นที่สมุย , ภูเก็ต , เชียงใหม่ หรือในภูมิภาค
ส่วนตัวเลขอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ เคบิน แฟคเตอร์ ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 69-70% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 68-69% เพราะได้เพิ่มความถี่และเที่ยวบิน ทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้งปีนี้ เคบิน แฟคเตอร์ จะอยู่ที่ 65-66% ด้านรายได้ คาดว่าจะใกล้เคียงเป้าหมาย แต่ปีหน้า รายได้จะเติบโตจากปีนี้ 13-14%