BMW และ โฟล์คสวาเก้น ในสหรัฐฯ ร่วมสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC เพื่อรองรับรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าในระยะทางไกล
ผู้ผลิตยักษ์ทั้ง 2 รายดังกล่าว เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ ChargePoint ซึ่งเป็น Startup ที่ให้บริการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จพลังไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด โดยทั้งบีเอ็มดับเบิลยู และโฟล์คสวาเก้น(Volkswagen) จะลงทุนสร้างสถานีชาร์จพลังงานเพิ่มอีก 100 แห่ง บริเวณเส้นทางเลียบชายฝั่งตะวันออกและตะวันตก จากปัจจุบันที่ ChargePoint มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นแห่งทั่วทวีปอเมริกาเหนือ
Robert Healey(โรเบิร์ต ฮีลเลย์) หัวหน้าฝ่ายบริการยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า ทาง ChargePoint จะสนับสนุนเพียงบางส่วนของการลงทุนสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้ง 100 แห่งดังกล่าว ขณะนี้เริ่มสร้างแล้วในเมืองซานดิเอโก(San Diego) คาดว่าจะครบ 100 แห่งในปีนี้
สถานีทั้ง 100 แห่ง จะกระจายอยู่ในเส้นทางที่ใช้สัญจรหนาแน่น เช่น ทางหลวงสาย Interstate 95 ตั้งแต่บอสตัน จนถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ในฝั่งตะวันออก ส่วนฝั่งตะวันตก สถานีชาร์จไฟฟ้า จะวางเชื่อมกันระหว่างเมืองลงมาตั้งแต่ทางภาคเหนือ คือ เมืองพอร์ตแลนด์ ไปถึงทางใต้ที่ซานดิเอโก ตัวสถานีจะตั้งห่างจากกันไม่เกิน 50 ไมล์ หรือประมาณ 80 กิโลเมตร
ส่วนหัวจ่ายไฟฟ้า จะมี 2 แบบ คือ 50 กิโลวัตต์ DC Fast chargers หรือ 24 กิโลวัตต์ DC Combo Fast chargers โดยหัวจ่ายแบบ 24 กิโลวัตต์ จะจ่ายไฟฟ้าให้กับ BMW i3 และ Volkswagen e-Golf สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 80% ภายในครึ่งชั่วโมง และจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นในสถานีที่มีหัวจ่าย 50 กิโลวัตต์ และยังสามารถรองรับพาหนะอื่นๆ ที่ชาร์จกระแสไฟ DC ได้ด้วย
ขณะที่ บริษัท Tesla ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชื่อดังในสหรัฐฯ ก็มีโครงการสร้างเครือข่ายสถานีจ่ายพลังไฟฟ้าในชื่อ Supercharger โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการชาร์จไฟ ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 150 แห่ง ทั่วทวีปอเมริกาเหนือ แต่ปัญหา ก็คือ รองรับได้เฉพาะรถยนต์ของ Tesla เท่านั้น