รายการ Intelligence ประจำวันที่ 18 ต.ค. 54
วิกฤติอุทกภัยที่ประเทศไ��ยเผชิญอยู่ในขณะนี้เป็นวิกฤติที่สร้างความเสียหายรุนแรง จนยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหาย และคาดว่าจะยืดเยื้อไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน นั่นหมายความว่า พื้นที่เกือบ 30 จังหวัดของประเทศ ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางต้องจมอยู่ใต้น้ำนานกว่า 3 เดือน
รศ.ชัยวัฒน์ ขยันการนาวี จากภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประเมินสภาพปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ว่า เกิดจากปริมาณน้ำสะสมจากพายุหลายลูกที่พัดเข้ามา เช่นพายุนกเตน ไหหม่า เนสาด และนาลแก แม้ปริมาณน้ำจะไม่มากเท่ากับปี 2538 แต่การขยายตัวของเมืองจากการพัฒนาทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ
นักวิชาการจากมหาวิทยาเกษตรศาสตร์ เสนอมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
มาตรการระยะสั้น เช่น ฟื้นฟูป่าไม้ อนุรักษ์แหล่งน้ำ กำหนดพื้นที่ควบคุมการก่อสร้างริมแม่น้ำ จัดตั้งกองทุนอุทกภัย กำหนดพื้นที่เกษตรรับน้ำนอง ก่อสร้างระบบผันน้ำขนาดกลาง
มาตรการระยะกลาง เช่น ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ การก่อสร้างคลองที่เป็นทางด่วนน้ำ ในพื้นที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท มายังฝั่งตะวันออก ผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มายังแม่น้ำนครนายก ลงไปที่แม่น้ำบางปะกง ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร
มาตรการระยะยาว คือ การสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทย จากแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี ไปยังแหลมฉบับ จังหวัดชลบุรี เป็นมาตรการที่มีผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบ เช่น ผลกระทบด้านนิเวศ เป็นโครงการที่ได้ไอเดียจากประเทศเนเธอร์แลนด์ จากการศึกษาเบื้องต้นโครงการนี้จะช่วยให้กรุงเทพรอดพ้นจากการจมน้ำในอีก 10 ปีข้างหน้า
Produced by VoiceTV