นักการตลาดเชื่อว่า โฆษณาผ่านสื่อออนไลน์จะมีบทบาทมากขึ้นในวงการโฆษณาทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ อาจมีมูลค่าทะลุ 29,000 ล้านเหรียญในปีหน้า
สัปดาห์ที่ผ่านมา eMarketer รายงานว่า 88% ขององค์กรธุรกิจในสหรัฐ ใช้แพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างน้อย 1 ช่องทางในการทำโฆษณา นักการตลาดเชื่อว่า หากบริษัทต้องการใช้แพลทฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ ต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอีกมาก
อินสตาแกรมเป็นอีกแพลทฟอร์มหนึ่งที่นักการตลาดให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้อินสตาแกรมสามารถแสดงผลเชิงสถิติอย่างที่เฟสบุคทำได้บ้างแล้ว ทำให้นักการตลาดเลือกทำการตลาดผ่านช่องทางนี้เพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา Instagram ได้ขยายการลงโฆษณาเป็น 38 ประเทศ จากเดิมที่ทดลองใน 8 ประเทศเป็นการชิมลาง โดยปัจจุบันมีการให้บริการโฆษณาหลายรูปแบบ เช่น Video Ads โฆษณาภาพเคลื่อนไหวด้วยวิดีโอ ความยาว 30 วินาที คล้ายๆกับโฆษณาทางทีวี รวมถึงรูปแบบการโฆษณาใหม่ล่าสุด ชื่อ Marquee สำหรับในประเทศไทย ค่ายดีแทคเป็นเจ้าแรกที่ประเดิมโฆษณาผ่านอินสตาแกรม
ส่วนเฟสบุคนั้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้เปิดตัวรูปแบบโฆษณาแบบใหม่ถึง 6 รายการ เพื่อรองรับผู้ใช้บริการเฟสบุ๊คที่มีจำนวนสูงถึงวันละ 1 พันล้านคน ที่โดดเด่นที่สุด คือ TRP หรือ Target-rating Point ที่สามารถช่วยให้ลูกค้าใช้ข้อมูลประกอบการซื้อโฆษณาได้ว่า เมื่อโฆษณาไปแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ อธิบายง่ายๆได้ว่า TRP ก็ทำงานคล้ายกับการวัดเรตติ้งของโทรทัศน์ ซึ่งนักการตลาดสามารถใช้เป็นตัวช่วยประเมินความคุ้มค่าได้นั่นเอง
นักการตลาดเชื่อว่า การโฆษณาผ่านสื่อที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาแบบนี้ จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดในเวลาที่สมควร นอกจากนี้ นักการตลาดยังเชื่อว่า เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ในสหรัฐ จะมีมูลค่าทะลุ 2 หมื่น 9 พันล้านเหรียญ หรือ 101,500 ล้านบาท ในปีหน้า (59)
Source
- https://www.youtube.com/watch?v=myP-u863GSw
- https://www.youtube.com/watch?v=-vWcPir5NbY