ยูเอซี  ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 เติบโต 20% จากการเร่งขยายธุรกิจ พร้อมเดินหน้าลงทุนพลังงานทดแทนเพิ่มเติม หากนโยบายรัฐบาล มีความชัดเจน  

บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ ยูเอซี ผู้ดำเนินธุรกิจการจำหน่ายเคมีภัณฑ์และพลังงานทดแทน เปิดให้ชมโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์ ขนาด 1.5 เมกะวัตต์ ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม(58) ที่ผ่านมา 

นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูเอซี ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท หรือเติบโต 20% โดยเป็นสัดส่วนรายได้ที่จะเข้ามาจากธุรกิจเทรดดิ้ง 1,000 ล้านบาท  การผลิตและจำหน่ายธุรกิจเคมีภัณฑ์ 800 ล้านบาท ที่เหลือมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน 
  
โดยในปีนี้ (59) บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ซึ่งใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 1 เมกะวัตต์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วนที่เหลือจะใช้ภายในโรงงาน 

ทั้งนี้ บริษัทยังแสดงความสนใจในพลังงานทดแทนเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ แต่ยังต้องรอนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจนจากรัฐบาล

ส่วนกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ลงนามในประกาศ คสช. อาศัยความตามมาตรา 44 ปลดล็อคปัญหาผังเมืองให้แก่โครงการพลังงานทดแทน นายกิตติ เชื่อว่าช่วยปลดล็อกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลจากขยะในขั้นแรก แต่ยังติดปัญหาด้านกฎหมาย เนื่องจากขยะถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ จึงจำเป็นต้องเข้าร่วมทุนตามพระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ปี โรงไฟฟ้าจึงจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเงื่อนไขการลงทุนที่ใช้รูปแบบการแข่งขัน หรือ บิดดิ้ง แทนระบบใบอนุญาต ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนรายใหญ่ ที่มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง