รายการ Intelligence ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2555
ปัญหาการบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน เขต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกกระแสสังคมมองด้านเดียวว่าคือการบุกรุกทำลายป่า สมควรแล้วที่เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จับกุม รื้อถอนรีสอร์ท "นายทุน"
แต่ปัญหาที่เป็นจริงซับซ้อนกว่านั้น เพราะการประกาศเขตอุทยานเมื่อปี 2524 ทับที่ทำกินของชาวบ้านที่อยู่มาก่อน ขณะเดียวกันก็มีปัญหาทับซ้อน ระหว่างอุทยานกับป่าสงวนที่นำไปออก สปก.ให้ประชาชนทำกิน บางพื้นที่เป็นเขตอุทยาน แต่ก็มี สปก.มีหมู่บ้าน มีวัด มีโรงเรียน มาเนิ่นนาน
คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ให้สำรวจแนวเขตและปรับแก้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยาน มีการตั้งคณะกรรมการกันเขตพื้นที่ออก กว่า 3 แสนไร่ แต่ก็หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2543 รัฐปล่อยปละละเลยให้อยู่กันมาเช่นนั้น เมื่อวังน้ำเขียวบูม ก็มีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยว รีสอร์ทผุดเป็นดอกเห็ด แต่ขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้อุทยานแห่งชาติทับลานเป็นพื้นที่มรดกโลกในปี 2548
ฟังความเห็นตัวแทนประชาชนในท้องถิ่น สมบูรณ์ สิงห์กิ่ง รองนายก อบต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว ไชนยศ โนจิตต์ รองนายก อบต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี และธีรพงษ์ พร้อมพอชื่นบุญ ผู้จัดการสำนักงานภาคตะวันออก สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรสั่งให้ชะลอการจับกุมดำเนินคดีไว้ก่อนจนกว่าจะจำแนกแนวเขตให้ชัดเจน แล้วจัดพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน โดยองค์กรท้องถิ่นมีส่วนร่วม จัดระบบดูแลดิน น้ำ ป่า อย่างยั่งยืนเป็น "วังน้ำเขียวโมเดล" เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาป่าไม้ที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้