ภาษีที่ดินมาแล้ว ถึงมาช้า แต่ก็มา ทำได้จริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ วันที่รัฐบาล คสช. ไฟเขียว ออก พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมา หลายฝ่ายต่างจับตามานานว่ารัฐจะเรียกเก็บภาษที่ดินจริงหรือไม่ ล่าสุด คณรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 

โดยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ระบุว่า กรณีที่มีที่ดินทิ้งร้างว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ ตามร่างเดิมนั้นให้เก็บภาษีในอัตราร้อยละ 0.5 ทุกๆ 3 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 5

ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมกำหนดเพดานการจัดเก็บภาษีที่ร้อยละ 2

• ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมที่มีมูลค่าต่ำกว่า 20 ล้าน เก็บอัตราภาษีร้อยละ 0.3 
• ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมที่มีมูลค่า 20 - 50 ล้าน เก็บอัตราภาษีร้อยละ 0.5
• ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมมูลค่า 50-100 ล้าน อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 0.7
• ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมที่มีมูลค่า 100-1,000 ล้าน มีอัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 0.9

ส่วนที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรและเพื่อการอยู่อาศัยนั้น คงไว้อัตราเดียวกับร่างเดิมที่ร้อยละ 0.2

นอกจากนี้ มีการออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้สามารถขอลดหย่อนภาษีได้ร้อยละ 90 คาดว่าจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 1 ปี หรือ 1 มกราคม 2562

การเก็บภาษีที่ดินเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้ยืดเยื้อเรื้อรังมานานแล้วหลายปี เรื่องนี้กระทบโดยตรงกับผู้คนที่ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมากที่จะต้องจ่ายภาษีตามที่รัฐกำหนดไว้ หลังกฎหมายบังคับใช้จะมีการเก็บภาษีที่ดินที่ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า