ไม่พบผลการค้นหา
CLIP Biz Feed : 5 ธุรกิจสำหรับนักลงทุนยุคมิลเลนเนียล
Biz Feed - ธุรกิจกัญชาดึงดูดบุคคลากรชั้นแนวหน้าจากทั่วโลก - Short Clip
สินค้าหรูทั่วโลกปรับตัวเอาใจลูกค้าจีน
บทเรียนจาก 'แอมะซอน ไพรม์ เดย์' ที่ร้านค้าปลีกควรรู้
 Biz Insight :  ชนชั้นกลางจีนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จน้อยลง
นักสิทธิฯ แนะตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่อเรือประมงไทย
สนามบินไทยไม่พอรองรับนักท่องเที่ยว
Biz Feed - นักท่องเที่ยวจีนล้น ไทยรับมือไม่ทัน - Short Clip
Biz Insight : จีนชิงบัลลังก์ผู้นำด้านพลังงานทดแทน 
World Trend - สถิติชี้ คนญี่ปุ่นฆ่าตัวตายสูงสุด 'เช้าวันจันทร์' - Short Clip
ยูนิเซฟขานรับ พ.ร.บ.คุมโฆษณานมผงไทย
แรงงานต่างชาติในไทยคุณสมบัติสูงเกินตำแหน่ง
Biz Feed - Biz Insight : มูลค่า 'อาลีบาบา' สูงกว่าศก. 136 ประเทศรวมกัน - SHORT CLIP
เมียนมาฝันสลาย นักท่องเที่ยวไม่ถึงเป้า
ทวิตเตอร์เล็งเพิ่มตัวอักษรกระตุ้นรายได้
ไทยยืดเวลาวีซ่าเพื่อการรักษาพยาบาล
7-11 อินโดฯล้มดีล ไม่ขายให้ยักษ์ใหญ่ CP
Biz Feed - หุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี2008 - Full EP.
Biz Feed - สำรวจตลาดลูกอมไทยในงาน THAIFEX2018 - Short Clip
FULL EP. มูลค่าหุ้นสแนปแชทพุ่งวันแรก 40%
คนจีนรุ่นใหม่กู้เงินซื้อรถ - คอนโด หวั่นปัญหาหนี้สะสม
May 30, 2017 03:24

เศรษฐกิจจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ประชาชนมีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ก็เกิดความกังวลว่าคนจีนรุ่นใหม่กำลังกู้เงินเพื่อมาซื้อรถยนต์และคอนโดราคาแพงจำนวนมาก จนนำไปสู่ภาวะสะสมของหนี้สินภาคครัวเรือน และอาจก่อให้เกิดวิกฤตด้านสินเชื่อรุนแรง
       
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเครดิตและการกู้ยืมเงินของสหรัฐฯ ลดความน่าเชื่อถือของจีนจากระดับ Aa3 ลงมาเหลือ A1 ซึ่งเป็นการลดระดับครั้งแรกในรอบ 30 ปี เนื่องจากเกิดความกังวลว่าหนี้ภาคครัวเรือนในจีนกำลังพุ่งสูงขึ้น ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจก็ค่อยๆชะลอตัว โดยพบว่าชาวจีนรุ่นใหม่จำนวนมาก กำลังก้าวเข้าสู่วังวนของการเป็นหนี้จากการกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อรถยนต์ราคาแพง และคอนโดที่มีขนาดใหญ่โดยไม่มีความจำเป็น
    
หลังจากที่จีนเปิดเสรีด้านการเงินเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นทั่วโลกเมื่อปี 2008 ทำให้หนี้สินภาคครัวเรือนของจีนเพิ่มมากขึ้นประมาณปีละ 11 % จนขณะนี้พุ่งสูงกว่า 260% หากเทียบกับผลผลิตมวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี โดยก่อนหน้านี้หนี้สินภาคครัวเรือนของจีนอยู่ที่ 140% ของจีดีพี ซึ่งหากหนี้สินภาคครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเท่าเดิม จะทำให้จีนมีหนี้สินภาคครัวเรือนสูงถึง 66 ล้านล้านหยวนภายในปี 2020 ประกอบกับการที่เศรษฐกิจจีนกำลังเจอกับปัญหาชะลอตัว ทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้เกิดวิกฤตด้านสินเชื่อที่รุนแรงยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐฯเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

การที่หนี้สินภาคครัวเรือนในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ย่อมหมายความว่าสถาบันการเงินมีมาตรฐานการปล่อยเงินกู้ที่ต่ำลง ผู้ปล่อยกู้มีการเสนอข้อจูงใจในการกู้ยืม เช่นเงื่อนไขเบื้องต้นง่ายๆ ทำให้การกู้เงินเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งมีโอกาสเป็นหนี้เสียสูง ซึ่งการกู้เงินในจีนส่วนมากเป็นการกู้เพื่อไปซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากธนาคารจีนให้ดอกเบี้ยการออมเงินต่ำ ตลาดหุ้นก็มีความเสี่ยงสูง คนจีนส่วนมากจึงนิยมซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อการลงทุน 

นอกจากนี้คนหนุ่มสาวที่กำลังจะแต่งงานในจีนก็จำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อมาซื้อคอนโด ไม่ว่าราคาจะขึ้นสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะว่าเป็นค่านิยมที่ใครคิดจะแต่งงานก็ควรจะมีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองก่อน ซึ่งราคาคอนโดที่พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน ก็ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้

การกู้ธนาคารเพื่อนำเงินมาซื้อรถยนต์ในจีนก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 40% ต่อปี เนื่องจากมีดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ ทำให้คนจีนรุ่นใหม่รู้สึกว่าการขับรถยนต์ราคาแพงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แม้หลายๆประเทศจะมีระดับหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงใกล้เคียงกับประเทศจีน แต่มูดีส์ก็บอกว่า ประเทศอื่นๆ มีรายได้ประชากรต่อหัวที่สูงกว่าประเทศจีน และสถาบันการเงินก็มีความแข็งแกร่งมากกว่า จึงทำให้ไม่มีความน่ากังวลเท่ากับสถานการณ์ในประเทศจีน 

ขณะนี้ทางการจีนก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยการกำชับให้สถาบันการเงินควบคุมการปล่อยเงินกู้ให้รัดกุมมากขึ้น แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะการปล่อยเงินกู้ให้ประชาชนไปใช้จ่ายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จีนใช้ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของประเทศไทย ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนก็ลดลงมาบ้าง โดยข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 ไทยมียอดคงค้างหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ระดับ 11 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 81.1% ต่อจีดีพี ลดลงจากปีก่อนหน้า (2015) ที่อยู่ระดับ 81.6 % ต่อจีดีพี ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมเชิงเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยรักษาวินัยทางการเงินมากขึ้น

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog