การล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ความเสียหายทางร่างกายแต่สะท้อนการใช้อำนาจที่เหนือกว่าของผู้ละเมิดในการปิดปากผู้สูญเสียว่า ยิ่งเรียกร้องยิ่งไม่ปลอดภัย ยิ่งยืนยันสิทธิยิ่งเสียหาย ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดในสังคมไทย
วันที่ 11 สิงหาคม 2560)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งความ จากคุณเอ (นามสมมติ) วัย 30 ปี ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้าง ในหน่วยงานราชการสัญญาจ้างปีต่อปี ได้นำหลักฐานยื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พร้อมระบุว่า ได้ถูกหัวหน้ากลุ่มงาน กระทำการลวนลาม อนาจารตน ทำมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตนทนไม่ไหว และอีกฝ่ายข่มขู่ว่า หากตนขัดขืน จะไม่มีการต่อสัญญาจ้างงาน
ภายหลังดำเนินการแจ้งความแล้ว หญิงสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า “ตั้งแต่ที่รู้จักกัน นายจ้างมีพฤติกรรมชอบลวนลามตนเป็นประจำ แต่เหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ทนไม่ได้ คือนายจ้างได้เข้ามาล็อกตัว บีบจับหน้าอกต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน และไม่มีใครกล้าช่วย เพราะนายจ้างจะใช้อำนาจข่มขู่” ตัวเองก็กลัว เพราะนายจ้างเป็นผู้บังคับบัญชาในที่ทำงานซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ก่อนหน้านี้ พนักงานหญิงโดนกันหลายคน แต่ไม่มีใครลาออก ทุกคนอดทน ใครเห็นก็จะไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะความกลัว
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีลูกจ้างหญิงร้องเรียนว่าถูกข้าราชการชายที่เป็นหัวหน้าลวนลามว่าได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2560 ทันที ที่ทราบเรื่องได้สั่งย้ายข้าราชการชายผู้ถูกร้องเรียนไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีทันทีพร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยมีผู้อำนวยการกลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบคุณธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานและนิติกรอีก 2 คนเป็นคณะกรรมการ
นายแพทย์โสภณกล่าวว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการสืบสวน คาดว่าจะสรุปผลการสืบสวนได้ภายในสัปดาห์หน้า และตั้งกรรมการสอบวินัยต่อทันที ขอให้ผู้ร้องเรียนอย่าได้กังวลใจ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ผู้ที่กระทำผิดต้องได้รับการลงโทษ
ทั้งนี้ ฝากถึงบุคลากรในสังกัดทุกคน หากมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ขอให้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบทันที อย่าได้เก็บเรื่องไว้เพราะความกลัว กระทรวงสาธารณสุข ยึดหลักธรรมาภิบาล พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
Source:
https://www.matichon.co.th/news/626911