รายการ คิดเล่นเห็นต่าง กับ คำผกา ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555
การคงอยู่ม่านรูดในสังคม อยู่ในฐานะอะไร เวลาขับรถเข้าไปรู้สึกอย่างไร ทำไมต้องมีม่านรูด แต่ในประเทศญี่ปุ่น มีคำเกี่ยวกับม่านรูดหลายอย่างเช่นใช้คำว่า Love Hotel ,Boutique Hotel,Fashoin Hotel ก็คือม่านรูดในญี่ปุ่น ต่อมาก็การขยายเป็น Resort Hotel,Couple hotel หรือเดท โฮเต็ล ทั้งหมดนี้คือม่านรูดที่มีมานานตั้งแต่สมัยเอโดะ และเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บ้านเรือนมีสภาพปรักหักพัง ทำให้คู่รัก "เอากัน"หรือมีเซ็กส์กันกลางแจ้ง ซึ่งทางรัฐเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็ควรให้สร้างโรงแรมม่านรูดขึ้นมา
ตั้งแต่นั้นมา Love Hotel ก็เริ่มมีรูปร่างตึกต่างๆนานา แล้วแต่จินตนาการ เช่นทรงปราสาทราขวัง มีไฟนีออนสีสันหลากหลาย แต่สิ่งที่ให้ Love Hotel โด่งดังขึ้นมาคือ การมีเตียงกลมหมุนได้ ซึ่งเป็นนวตกรรมใหม่ รวมทั้งภายในห้องนอนมี กระจกบนเพดาน ต่อมาก็มีกฎหมายออกมาควบคุมเรื่องการก่อสร้างอาคาร เพื่อต้องการยืดเวลาการก่อสร้างโรงแรมออกไป เช่นห้ามใกล้สถานศึกษา จากนั้นเซ็กส์ในประเทศญี่ปุ่นก็มีรูปแบบแตกต่างกันเช่น การนำเครื่องแบบ ครู นักเรียนมาเป็นองค์ประกอบเกี่ยวกับการมีเซ็กส์
การที่คนญี่ปุ่นมีจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องเพศมากมาย เนื่องจากสังคมยอมรับได้โดยเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจ กลับมองเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เทียบกับของไทยกลับเป็นเรื่องหลบๆซ่อนๆ
คนญี่ปุ่นมองว่าเรื่องการมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหลบซ่อน แต่การใช้บริการ Love Hotel อาจเกิดจากปัญหาที่บ้านไม่สะดวก หรือบ้านอยู่นอก ต้องใช้เวลาเดินทางนาน จึงมีการนัดแนะคู่รัก หรือสามี –ภรรยาใช้บริการสถานที่ดังกล่าว นอกจากนี้ภายในห้องนอน จะสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ โดยมีตู้หยอดเหรียญภายในห้อง หรือช่องจ่ายเงินโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอำนวยความสะดวกตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น
จากบทความในวารสาร สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฉบับหนึ่งมีการเอ่ยอ้างโรงแรมม่านรูดในจังหวัดเชียงใหม่ว่ามี 60แห่งจำนวน 1,800 ห้อง และคนที่ใช้บริการ เช่นในช่วงวันวาเลนไทน์ อายุ 23-29 ปี มาใช้บริการมากที่สุด ไม่ใช่กลุ่มวัยรุ่นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามบริบทของโรงแรมม่านรูดคือการใช้บริการสถานที่ชั่วคราว มีม่านเพื่อปิดกั้นจากโลภภายนอก ไม่ให้ก้าวล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว เป็นการหลบความละอาย ดังนั้นการใช้ชื่อโรงแรมม่านรูดในไทย จึงตั้งชื่อเกี่ยวกับการผจญภัย เช่น Adventure,Venus เป็นต้นและเป็นสถานที่สำหรับคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน หรือคนรักนอกรีต ดังนั้นการเข้าม่านรูดเปรียบเสมือนการประกาศว่าตนเองเป็นคนนอกรีต ไม่ถูกทำนองคลองธรรม เป็นการสารภาพสังคม ว่าฉันได้กระทำสิ่งที่น่าละอาย แต่ขณะเดียวกันที่ญี่ปุ่น จะไม่มีการรูดม่านกั้นรถที่เข้าไปบริการ แต่จะมีการปิดป้ายทะเบียนรถแทน