เขา คือ คาวบอยหนุ่มผู้กุมบังเหียนกลุ่มธุรกิจฟาร์มโชคชัย และ พลิกธุรกิจจากที่เคยติดลบให้ทำกำไร ด้วยการเปลี่ยนฟาร์มโคนมธุรกิจด้านการเกษตรให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ในอดีตฟาร์มโชคชัยเป็นแค่เกษตรกรรายหนึ่ง เพียงแต่เป็นรายใหญ่ ต่อมาต้องเผชิญกับปัญหาการทำธุรกิจและประสบภาวะหนี้สิน “โชค บูลกุล” ในฐานะทายาทเจ้าของกิจการ จึงต้องกลายเป็นตัวแทนของความหวัง เขาจึงเลือกที่จะบริหารในแบบแนวทางของเขาเอง โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ด้านการตลาดของฟาร์มอย่างเป็นเหตุเป็นผล
เมื่อวิเคราะห์ได้...เขาจึงเริ่มลงมือทำ
หลักสำคัญในการบริหารของโชค มีเพียง 4 องค์ประกอบหลักคือ การบริหารต้นทุน ที่เน้นการบริหารเงินสด และไม่กู้แบงก์โดยไม่จำเป็น โดยจะไม่ทำโครงการที่ใหญ่เกินศักยภาพหรือลงทุนผิดประเภท และรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะสัมพันธ์กับ การบริหารความเสี่ยง ประการต่อมาคือการวางโพสิชั่นนิ่ง และกลยุทธ์การตลาด โดยเขาเลือกใช้วิธีทำฟาร์มให้น่าสนใจเพื่อให้คนเข้ามาหา และกระจายออกไปแบบปากต่อปาก
และแล้วผลประกอบการธุรกิจที่ติดลบอย่างหนักก็เริ่มฟื้นตัว...และเขาก็กลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการธุรกิจไทยและระดับเอเชียด้วยการครองตำแหน่ง “ผู้บริหารฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในเอชียตะวันออกเฉียงใต้”
ปัจจุบันกิจการของกลุ่มฟาร์มโชคชัยมีรายได้กว่าปีละ 2,000 ล้านบาท กำไรประมาณ 150 ล้านบาท โดยมีธุรกิจการเกษตรและปศุสัตว์ และโรงงานอาหารสัตว์ทำรายได้ให้มากที่สุด ในขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์นมตรา อืมม!..มิลค์ และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากถึง 240,000 คน/ปี ทำเปอร์เซ็นต์กำไรได้สูงที่สุด นอกเหนือไปจากธุรกิจอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือโรงงานให้เช่าบนเนื้อที่ 100 ไร่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นธุรกิจเดิม
พบกับเรื่องราว สุดยอดแนวคิด สุดยอดนักธุรกิจ โชค บูลกุล ได้ใน Voice of the day ตอนนี้ทันที
Produced by VoiceTV