บอกลานายเนลสัน แมนเดล่า.....
Go Global ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2556
นายเนลสัน แมนเดล่า อดีตผู้นำแอฟริกาใต้ ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยโรคปอดติดเชื้อ รวมอายุ 95 ปี นับเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาและเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ นโยบายเหยียดผิวอย่างต่อเนื่อง ทางการแอฟริกาประกาศจะจัดพิธีศพอย่างเป็นทางการและสมเกียรติ นายแมนเดล่าแทบไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนับตั้งแต่ปี 2547 หลังจากเกษียรอายุ แต่ยังเป็นที่รักและนับถือจากชฃาวแอฟริกาใต้อย่างมาก นายบันกีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ พร้อมด้วยผู้นำระดับโลก เช่น ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าปห่งสหรัฐฯ และนายเดวิด คาเมรอน ของสหราชอาณาจักร ร่วมส่งสารแสดงความเสียใจต่อนายแมนเดล่า ผู้ที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันทางการเมือง และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2536
เกิดเหตุการประท้วงและจราจลที่เมืองหลวงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลได้รวมตัวกัน เข้ายึดอาคารที่ทำการของรัฐ เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่มีนโยบาย "เมิน" ความร่วมมือกับสหภาพยุโรป เพราะยังเกรงใจความสัมพันธ์ที่มีต่อรัสเซีย ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการความร่วมมือกับสหภาพยุโรปมากขึ้น และร้องขอให้ผู้นำประเทศลดความสัมพันธ์และถอนตัวออกมาจาก "วงโคจร" ของรัสเซีย ด้านฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลแต่เนื่องจากมีเสียงสนับสนุนใน รัฐสภาไม่เพียงพอจริงทำให้ล้มเหลวในการสร้างความกดดันให้รัฐบาล ประธานาธิบดียานูโควิชนั้น ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นที่จับตามองว่า การประท้วงครั้งนี้จะส่งผลให้นำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลได้หรือไม่
นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออก ไดแก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญอยู่ที่การให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศในภูมิภาคถึงการ คงอยู่ของสหรัฐฯ ทั้งในแง่ของหุ้นส่วนความสัมพันธ์และการสร้างความมีเสถียรภาพให้กับประเทศ พันธมิตร โดยเน้นในสองประเด็น คือ การหารือกับจีนเกี่ยวกับโครงการกำหนดอธิปไตยน่านฟ้าที่จีนได้ประกาศใช้ไป แล้ว ซึ่งครอบคลุมเหนือหมุ่เกาะที่เป็นข้อพิพาทกับญี่ปุ่น ซึ่งสหรัฐฯ มองว่า ความพยายามของจีนจะนำไปสู่ความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องกรอบหุ้นส่วนข้ามทวีปแปซิฟิค หรือ Trans-Pacific Partnership (TPP) ซึ่งสหรัฐฯ หวังว่าจะมีข้อตกลงกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ได้ แม้จะเผชิญหน้ากับงบประมาณที่ถูกตัดอย่างมากจากสภาคองเกรส