ธ.ก.ส. เปิดตัวกองทุนช่วยชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำ พร้อมตั้งเป้าระดมทุนให้ได้ 2 หมื่นล้านบาท มั่นใจไม่มีปัญหาคืนเงินต้น
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดตัวกองทุนช่วยเหลือชาวนา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว โดยประชาชนทั่วไปสามารถร่วมบริจาคสมทบได้ 3 รูปแบบ คือ 1.การบริจาคเงินเข้ากองทุนบัญชีออมทรัพย์ ธ.ก.ส. เลขที่บัญชี 0200-3-3477-582 สาขาบางเขน
2. การสมทบเงินเข้ากองทุนชนิดคืนเงินต้น ไม่มีผลตอบแทน และ 3. การสมทบเงินเข้ากองทุนชนิดคืนเงินต้น มีผลตอบแทนดอกเบี้ยร้อยละ 0.63 ต่อปี เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ โดยกองทุนที่ 2 และ 3 จะคืนเงินเมื่อครบกำหนดวันที่ 31 ธันวาคม 2557
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ตั้งเป้าระดมเงินทุนเบื้องต้นให้ได้ 2 หมื่นล้านบาท และ ธ.ก.ส. จะนำไปกระจายให้กับชาวนาอย่างทั่วถึงตามลำดับและมูลค่า โดยแจกจ่ายไปที่สาขา และเมื่อสาขาได้รับเงิน ก็จะนำไปแจกจ่ายตามลำดับของใบประทวนชาวนาในพื้นที่
สำหรับกองทุนที่ 2 และ 3 ซึ่งต้องคืนเงินต้นนั้น เม็ดเงินที่คืน จะมาจากการระบายข้าว, การจัดหาวงเงินจากกระทรวงการคลัง และวงเงินงบประมาณจากภาครัฐ จึงมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบ
ขณะนี้ เงินจากการระบายข้าวอยู่ที่ประมาณ 8 พันถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจนถึงเดือนกันยายน คาดว่าจะมีวงเงินระบายได้รวมกว่า 7 ถึง 8 หมื่นล้านบาท มากกว่าวงเงินที่ระดมได้จากกองทุน จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการคืนเงินต้น ส่วนกองทุนที่ 1 เป็นเงินบริจาคจากประชาชนจะมีคณะกรรมการของธนาคาร และคณะกรรมการกองทุนคอยบริหารงาน
ด้านผู้ผลิตข้าวหงษ์ทอง ประเมินราคาข้าวไทยปีนี้ จะอ่อนตัวลง จากเดิมอยู่ที่ 500-600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ 300-400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และมียอดสั่งซื้อจากคู่ค้า เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้อลดลงถึงร้อยละ 30 แม้ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะคุณภาพข้าวไทยเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ
บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "โจ๊กหงส์ทองพลัส" ที่ผลิตจากข้าวหอมมะลิ และข้าวกล้องหอมมะลิ เจาะกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กอายุ 3-12 ปี ตั้งเป้ายอดขายปีแรกที่ 60 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 5-10 จากมูลค่าตลาดรวม 1,800 ล้านบาท