ความเฟื่องฟูของบริการสตรีมมิงอาจส่งผลเสียต่อตลาดในภาพรวม หลังผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า ผู้บริโภคอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งมองว่าบริการประเภทนี้มีอยู่มากเกินไป
ผลสำรวจเทรนด์ดิจิทัลมีเดียประจำปีครั้งล่าสุดของ 'ดีลอยต์' (Deloitte) บริษัทที่ปรึกษาและการบัญชีชื่อดัง ระบุว่าผู้บริโภคอเมริกัน 47 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกไม่พอใจที่บริการสตรีมมิงและความบันเทิงที่ต้องเสียค่าสมาชิกมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้ตอบสำรวจ 57 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกไม่พอใจที่คอนเทนต์ในบริการหนึ่ง ๆ ที่ใช้งานหายไปจากแพลตฟอร์ม เพราะหมดลิขสิทธิ์ ทำให้พวกเขาไม่ได้ชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ชื่นชอบ แม้จะเสียค่าบริการในส่วนนี้ก็ตาม
เควิน เวสต์คอตต์ รองประธานดีลอยต์ กล่าวว่า ผู้บริโภคล้วนต้องการทางเลือก แต่ก็ถึงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น และธุรกิจประเภทนี้กำลังจะทำให้เกิดภาวะ 'ความอ่อนล้าในการสมัครสมาชิก' หรือ Subscription Fatigue ขึ้นมาแทน โดยปัจจุบันบริการสตรีมมิงในสหรัฐฯ มีให้เลือกทั้ง Netflix , Hulu , Amazon Prime Video , HBO , CBS All Access , Showtime และ YouTube Premium ซึ่งหลังจากนี้จะมี Apple , Disney , WarnerMedia , NBCUniversal และผู้เล่นรายอื่น ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม จำนวนครัวเรือนที่สมัครสมาชิกเพื่อรับชมความบันเทิงในสหรัฐฯ ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีครัวเรือนที่สมัครสตรีมมิงเพื่อ 'รับชม' มากกว่า 1 บริการ ถึง 69 % และที่สมัครเพื่อ 'รับฟัง' บริการดนตรี 41 % ซึ่งผู้ชมจำนวนหนึ่งยังคงรับชมความบันเทิงในแบบเดิม ๆ เช่น ดาวเทียม เคเบิล เพย์ทีวี และ 43 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบสำรวจก็สมัครทั้งเพย์ทีวีแบบเก่า และสตรีมมิงแบบใหม่ เพื่อใช้บริการได้ครอบคลุมความต้องการมากที่สุด