ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - เผยโฉมแอร์บัส A350-1000 ครั้งแรกในไทย ตอนที่ 1- Short Clip
World Trend - ‘ไฮเปอร์​ลูปวัน’ เตรียมสร้างศูนย์วิจัยในสเปน - Short Clip
World Trend - อินเดียเตรียมเปิดไฮเปอร์ลูปปี 2021 - Short Clip
World Trend - ปักกิ่งสร้างถนนเพื่อจักรยานครั้งแรก พร้อมใช้งานปีหน้า - Short Clip
World Trend - รถยนต์ไฟฟ้า 3 ค่ายพร้อมจองในงาน Motor Expo 2018 - Short Clip
World Trend - ฝรั่งเศสเปิดใช้ ‘รถเมล์ไฟฟ้า’ ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในโลก - Short Clip
World Trend - เผยโฉมแอร์บัส A350-1000 ครั้งแรกในไทย ตอนที่ 2 - Short Clip
World Trend - เปิดตัวนวัตกรรมการบินสุดล้ำที่งาน ‘ฟาร์นเบรอ แอร์โชว์’- Short Clip
World Trend - เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39- Short Clip
World Trend - จีนอนุมัติสร้างรถไฟความเร็วสูงใต้น้ำสายแรก - Short Clip
World Trend - 'มัสก์' เปิดตัวอุโมงค์ไฮสปีดแก้รถติดใต้ผิวโลก - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กลบบัญชีปลอม 2,200 ล้านบัญชี - Short Clip
World Trend - สงครามการค้ากระทบอุตสาหกรรมการบินโลก - Short Clip
World Trend - สตาร์ตอัปเล็งผลิตเครื่องบินเร็วกว่าเสียง 5 เท่า - Short Clip
World Trend - WhatsApp เร่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เจาะกลุ่มนักธุรกิจ SME - Short Clip
World Trend - รัสเซียหวังแซงจีนขึ้นอันดับ 2 ผู้ผลิตทองคำโลก - Short Clip
World Trend - ธุรกิจการบินร่วมพัฒนาบริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน - Short Clip
World Trend - ​​'โฟล์กสวาเกน' ปล่อยคาร์บอน 2% ของทั้งโลก - Short Clip
World Trend - เกาหลีใต้เตรียมผลิตหุ่นยนต์ใช้ในกองทัพ - Short Clip
World Trend - เปลี่ยนขยะให้เป็นทองผ่านงานศิลป์ 'Pure Gold' - Short Clip
World Trend - ดูไบเผยโฉมห้องโดยสาร 'ไฮเปอร์ลูป' ครั้งแรก - Short Clip
Feb 27, 2018 10:50

ดูไบเปิดเผยโฉมหน้าห้องโดยสารไฮเปอร์ลูป การคมนาคมขนส่งไร้แรงเสียดทานด้วยความเร็วเหนือเครื่องบิน คาดว่าจะสามารถพัฒนาจนใช้งานได้จริงภายใน 5 ปีข้างหน้า

ไฮเปอร์ลูปถูกคาดหวังว่าจะเป็นการเดินทางแห่งอนาคต เพราะว่าเป็นระบบที่สามารถพาผู้โดยสารเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้รวดเร็วที่สุด และขณะนี้ก็มีหลายๆเมืองทั่วโลกที่มีแผนจะนำระบบไฮเปอร์ลูปเข้ามาใช้แล้ว และดูไบก็เป็นหนึ่งในนั้น 

เว็บไซต์ economic times รายงานว่า Virgin unveils prototype of Hyperloop pod in Dubai บริษัท 'เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน' ได้เปิดเผยโฉมหน้าตาห้องโดยสารรุ่นโปรโตไทป์ของระบบไฮเปอร์ลูปคือระบบโดยสารแบบไร้แรงเสียดทาน ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

เป็นการเปิดตัวภายในงานจัดแสดงเทคโนโลยีด้านการขนส่งในนครดูไบ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมงานจำนวนมาก เพราะห้องโดยสารภายในถูกตกแต่งด้วยลักษณะหรูหราและล้ำสมัย คล้ายกับเทคโนโลยีที่มาจากอนาคต ที่สำคัญคือมีพื้นที่กว้างขวางอย่างมาก 

การตกแต่งนั้นผนังด้านในสีขาวสะอาดตา พร้อมเบาะที่นั่งเรียบหรูสีครีมเบจ ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟนีออนสีส้มและฟ้า มีที่วางแขนเป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ขบวนรถจะแบ่งเป็นสีแบบคือ Gold Class มีที่นั่งทั้งหมด 5 ที่นั่ง Silver Class มี 14 ที่นั่ง

สำนักงานถนนและการขนส่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือว่า RTA อธิบายว่าไฮเปอร์ลูปไฮเปอร์ลูปเป็นเทคโนโลยีการขนส่งที่นำระบบขับเคลื่อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มาเพิ่มความเร็วของยานพาหนะ ซึ่งจะวิ่งลอยอยู่เหนือรางภายในอุโมงค์สุญญากาศ 

เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างนครดูไบกับกรุงอาบูดาบีด้วยระยะทาง 139 กิโลเมตร เหลือเพียง 12 นาทีจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเดินทางราว 90 นาทีด้วยรถยนต์ส่วนตัว และสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ราว 10,000 คนต่อชั่วโมง และคาดว่าจะสามารถพัฒนาจนใช้งานได้จริงภายใน 5 ปีข้างหน้า

ทางการของดูไบชี้ว่าปัจจุบันมีรถยนต์เดินทางในเส้นทางดังกล่าว 4,000 คันต่อวัน ซึ่งเป็นการเดินทางที่ทำให้เสียเวลาอย่างมากของผู้คนมากมายในแต่ละวัน หากคิดเป็นการเสียโอกาสแล้วจะพบว่ามีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับเวลาการทำงานที่จำเป็นต้องสูญเสียไปในการเดินทาง

อย่างไรก็ตามขณะนี้โครงการก่อสร้างยังเป็นเพียงแค่ข้อเสนออยู่ ยังจะต้องมีขั้นตอนของการเจรจาต่อเนื่องในอีกหลายเรื่อง ซึ่งขณะนี้นายร็อบ ลอยด์ CEO ของบริษัท Virgin Hyperloop One กำลังเร่งขยายไอเดียให้กับทางการสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ และระบุว่าเส้นทางรถไฮเปอร์ลูปสายนี้ซึ่งวิ่งตั้งแต่นครเจ็ดดาห์ ไปยังกรุงริยาร์ดของซาอุดีฯ ผ่านกรุงอาบูดาบี ไปสิ้นสุดที่นครดูไบ เป็นเหมือนกระดูกสันหลังที่เชื่อมระหว่างทะเลแดงและทะเลอาหรับ และจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของการขนส่งสินค้า การคมนาคมของผู้คน และการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างยิ่งยวด

***หลายคนสงสัยทำไมเครื่องบินยังคงใช้ความเร็วประมาณ 900 กม./ชม.ไม่พัฒนาให้มากเท่าไฮเปอร์ลูป***

1. การบินผ่านย่านความเร็วเสียง (ประมาณ 1000 กม./ชม.) จะใช้เชื้อเพลิงสูงมาก จนไม่คุ้มค่า

2. การลดเวลาลงจาก 7 ชม. เหลือ 3 ชม. ไม่ได้มีความหมายสำหรับทุกคน มันคุ้มแค่บางคนเท่านั้น

3. คนส่วนใหญ่คำนึงถึงค่าโดยสารที่ถูก มากกว่าจ่ายแพงๆเพื่อให้เร็วขึ้นไม่กี่ชม.

4. การทำความเร็วเหนือเสียง เครื่องต้องลดขนาดลงจนที่นั่งมันนั่งไม่สบาย

5. สุดท้ายจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมการบินแค่ 900 จึงเป็นความเร็วที่คุ้มค่าที่สุดต่อทุกคนครับ

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog