รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2563
“ปารีณา” เผย “ยังไม่ได้รับหมายเรียกคดีรุกป่า” ทำเอาคนร้องหวั่นใจมีใบสั่ง-แทรกแซง แต่ บก.ปทส. ออกหมายเรียกแล้ว 11 มี.ค. พร้อม “พ่อทวี” ที่โดนรุกป่าที่สวนผึ้ง 600 ไร่ด้วย ด้านเลขาธิการ ป.ป.ช. เผยขอเวลาสอบปม “ปารีณา” แจ้งบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินเป็นเท็จ อีกนิดหน่อย “อ.วิโรจน์” ถามนิดหน่อยนี่กี่วัน ย้อนถึงปมเอกสารลอยน้ำ ทำเอา “คำผกา” ถามอีกรอบ ข่าวเอกสารลอยน้ำ ไม่ได้ฝันไป นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงคดีบุกรุกที่ดินป่าสงวนในพื้นที่ จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ว่า บก.ปทส.ได้รับอนุมัติรับโอนสำนวนคดีจาก สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก น.ส.ปารีณา มาพบในวันที่ 11 มี.ค.นี้ เช่นเดียวกับนายทวี ไกรคุปต์ บิดา ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องบุกรุกที่ดิน สภ.สวนผึ้ง กว่า 600 ไร่ ที่ได้เสนอไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.อนุมัติโอนคดีไปที่ บก.ปทส.เรียบร้อยแล้ว ส่วนท่าที น.ส.ปารีณา ในการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มีการพิจารณาตรวจสอบ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดำเนินคดีกับนายทวี ตามที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ยื่นร้องเรียน นายวีระ ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีนายทวี,น.ส.ปารีณา มีการแทรกแซงหรือดึงเรื่องให้คดีล่าช้า ตัวแทนที่มาชี้แจงนั้นระบุว่า ได้ส่งสำนวนคดีเข้าไปยังส่วนกลางคือ กองกฎหมายและคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่เมื่อติดตามเรื่องเมื่อวันที่ 2 มี.ค. กลับไม่มีบุคคลใดยืนยันต่อกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีของ บก.ปทส.นั้น ทราบว่าได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. แต่จนถึงล่าสุดก็ยังไม่พบการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เชื่อว่าเรื่องนี้มีอาจมีใบสั่งจากนายตำรวจใหญ่ ด้าน น.ส.ปารีณา (เป็น กมธ.ชุดนี้ด้วย) ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะผู้ที่ถูกร้อง จึงไม่ได้แสดงความเห็นหรือซักถามใดๆ แต่สงสัยในการกระทำของนายวีระ ที่ประธาน กมธ. อนุญาตให้ซักถามบุคคลที่เชิญมาชี้แจงได้ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการฯ อีกทั้งการตรวจสอบกรณีดังกล่าวเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่การตรวจสอบว่าบุคคลใดทำผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า การตรวจสอบคดีรุกป่าของตนและบิดาล่าช้าหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีการใช้อำนาจใดแทรกแซงการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ สำหรับกรณีที่ บก.ปทส. ออกหมายเรียกนั้น น.ส.ปารีณากล่าวว่า ทราบข่าวเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่การแจ้งหมายเรียกสามารถส่งไปรษณีย์ไปยังบ้านพักตามที่อยู่ที่ จ.ราชบุรีได้ และเมื่อได้รับหมายเรียกแล้ว ตนและนายทศพล เพ็งส้ม ในฐานะทนายความ พร้อมจะปฏิบัติตามหมายเรียก แต่ขณะนี้ตนยังไม่เห็นหมายเรียก และยังไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดนำหมายเรียกมาให้ตนที่รัฐสภาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จาก บก.ปทส. จำนวน 3 นาย ได้ถือแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่มานั่งอยู่บริเวณหน้าห้องประชุมกรรมาธิการฯ โดยส.ส.ที่มาร่วมประชุม ต่างคาดการณ์กันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ที่นำหมายเรียกมาให้กับน.ส.ปารีณา เนื่องจากปิดสมัยประชุมสภาฯ แล้ว แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บก.ปทส.ได้รับคำชี้แจงว่า เป็นฝ่ายสนับสนุนด้านข้อมูลให้กับ ผบก.ปสท. เท่านั้น โดยเดินทางมาวันนี้ตามจดหมายเชิญให้มาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ ไม่ได้นำหมายเรียกใดๆ มาให้กับ น.ส.ปารีณา ด้าน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการแจ้งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 ของ น.ส.ปารีณา ว่า ได้รวบรวมข้อมูลที่มีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว โดยที่ผ่านมา น.ส.ปารีณา ได้เข้ามาชี้แจงต่อ ป.ป.ช.แล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง แต่ ป.ป.ช.ยังต้องรอข้อมูลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งในส่วนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. จะแยกออกจากการตรวจสอบของหน่วยงานอื่น โดยจะดูว่ามีความจงใจยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินโดยปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้อาจจะใช้เวลาตรวจสอบเพิ่มขึ้น เนื่องจาก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มีการกำหนดที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเขียนต้องตรวจสอบลงลึก และจะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีความจงใจไม่แสดงที่มาของทรัพย์สินหรือไม่ ดังนั้นการทำงานของ ป.ป.ช.จึงต้องหาพยานหลักฐานที่ชัดขึ้นกว่าเดิม จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบมากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย