ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - Benz เปิดตัวรถ G-Class สไตล์วินเทจ - FULL EP.
World Trend - WhatsApp ให้ส่งสติกเกอร์แชตได้แล้ว - Short Clip
World Trend - ใยผ้าอัจฉริยะใช้แทนกุญแจเปิดประตูได้ - Short Clip
World Trend - Apple ยอมรับ ลำโพง HomePod ทำให้เกิดคราบบนพื้นไม้จริง - Short Clip
World Trend - ซาวนด์คลาวด์เตรียมเปิดให้สตรีมเพลงไปใช้งาน - Short Clip
World Trend - เกาหลีออกกฎควบคุมอุปกรณ์แพทย์ VR และ AR - Short Clip
World Trend - คาด iPad Pro รุ่นใหม่ไร้ปุ่มโฮม - FULL EP.
Apple พร้อมจำหน่าย Parker ตุ๊กตาหมี AR แล้ว
World Trend - Google Maps AR เริ่มใช้งานได้แล้ว - Short Clip
World Trend - ยาน Dream Chaser เตรียมสำรวจอวกาศในปี 2020  - Short Clip
World Trend - Windows 10 รุ่นถัดไปเตรียมรองรับ AI เต็มรูปแบบ - Short Clip
World Trend - Apple เตรียมปรับลดราคา MacBook Air - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเปิดตัวแมคบุ๊ก 'กรีนที่สุด' - Short Clip
World Trend - ฟาร์มจีนเพาะพันธุ์แมลงสาบเพื่อทำยา - Short Clip
World Trend - นักผดุงครรภ์ใช้ AR ฝึกทำคลอด - Short Clip
World Trend - คอลเกตเปิดตัวแปรงสีฟัน AI - Short Clip
World Trend - Samsung เผยคอนเซ็ปต์ผลิตโดรนควบคุมด้วยตา - Short Clip
World Trend - IMAX เปิดตัวแอปฯ AR ให้แชตกับแพนด้า - Short Clip
World Trend - เตรียมชมนิทรรศการ AR ในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 46 - Short Clip
World Trend - ชาวเคนยาถูกนายจ้างจีนเหยียดผิวในประเทศตัวเอง - Short Clip
World Trend - Apple เตรียมเน้นการทำงาน AR บน iPad Pro - Short Clip
Jan 16, 2018 04:47

Trending Now 16 มกราคม 2561

Apple เตรียมเน้นการทำงาน AR บน iPad Pro

หลังจากที่ไอโฟนเทนเปิดตัวโฆษณา Portrait Lighting แบบใหม่ไปได้ไม่นาน แอปเปิลก็ปล่อยโฆษณา ไอแพดโปรออกมาใหม่ถึง 2 ตัวด้วยกัน โดยเน้นไปที่อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีความจริงเสริม หรือเออาร์ พร้อมกับโชว์ให้เห็นถึงการจดบันทึกแบบมีประสิทธิภาพด้วยแอปเปิลเพนซิล

โฆษณาตัวแรกพูดถึงการใช้เทคโนโลยีเออาร์สำหรับการออกแบบในทุกพื้นที่ ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ได้เพียงใส่จินตนาการลงไป ในโฆษณาเป็นภาพตัวอย่างเด็กปั่นจักรยานมาหยุดตรงหน้าชายที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนม้านั่ง เขาหยิบไอแพดโปรออกมา และเริ่มออกแบบที่นั่งโซฟาซ้อนทับลงไปบนพื้นที่จริงผ่านหน้าจอไอแพด แสดงให้เห็นว่าใคร ๆ ก็ใช้เทคโนโลยีเออาร์ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย

และโฆษณาอีกตัวพูดถึงความสามารถในการจดบันทึกด้วยแอปเปิลเพนซิลบนแอปพลิเคชัน​ "โน้ต" ในไอแพดโปร ที่ทำงานร่วมกับไอโอเอส 11 ซึ่งโฆษณาไอแพดชุดใหม่นี้ แอปเปิลพยายามที่จะเน้นให้ผู้ใช้งานเห็นว่าไอแพดโปรสามารถทำงานมากกว่าคอมพิวเตอร์พีซี และอาจจะเข้ามาแทนที่พีซีได้ในอนาคต

หน่วยกู้ภัยเดนมาร์กใช้ AI วินิจฉัยโรคหัวใจ

หน่วยพยาบาลฉุกเฉินในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชื่อว่า 'คอร์ไท' ที่พัฒนาโดยสตาร์ตอัป เข้ามาช่วยแบ็คอัปข้อมูลการวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยโรคหัวใจ ระหว่างที่ผู้ป่วยคุยโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ โดยปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าวสามารถเข้าใจคำที่ผู้ป่วยสื่อสารหรือจดจำจังหวะการหยุดหายใจของผู้ป่วยได้ หลังจากนั้น AI จะแจ้งเตือนข้อมูลที่ได้ไปยังผู้เชี่ยวชาญในหน่วยฉุกเฉิน เพื่อให้วิเคราะห์อาการของผู้ป่วยอย่างละเอียดต่อไป

นอกจากนี้ คอร์ไทยังสามารถแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่สอบถามสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้รถพยาบาลไปรับผู้ป่วยได้ถูกจุด แต่หน้าที่หลักของคอร์ไทคือ การวินิจฉัยผู้ป่วยด้วยเสียงรอบตัว เช่น หากรถพยาบาลไปรับผู้ป่วยที่ตกจากหลังคาจนหลังหัก คอร์ไทก็จะจับเสียงจังหวะการหายใจขณะต่อสายกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งตรงกับรูปแบบการหายใจที่แผ่วเบาของผู้ป่วยคล้ายกับคนที่พยายามหายใจเพื่อไม่ให้หัวใจหยุดเต้น

อย่างไรก็ตามปัญญาประดิษฐ์คอร์ไทนี้ ยังอยู่ในช่วงทำการทดสอบและปรับปรุงจึงไม่สามารถให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ได้มากนัก โดยคาดว่าในอนาคต คอร์ไทจะสามารถชี้แนะเจ้าหน้าที่วินิจฉัยผู้ป่วยผ่านโทรศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคอร์ไทเตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้

AI เปลี่ยนเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ได้

มาอัปเดตอีกหนึ่งข่าวปัญญาประดิษฐ์ครับ สำนักข่าว NBC รายงานว่า ดอกเตอร์คอน สโลบอดชิคคอฟ นักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์น แอริโซนา ใช้เวลากว่า 30 ปี ในการศึกษากระรอกดิน หรือแพรี่ด็อก (Prairie Dog) เพื่อให้เข้าใจวิธีการสื่อสารที่ซับซ้อนของมันผ่านเสียงและสีหน้าท่าทาง โดยพยายามแปลงออกมาเป็นภาษาอังกฤษแบบง่าย เพื่อให้มนุษย์เข้าใจได้มากขึ้น

โดยล่าสุด ทีมงานได้ร่วมมือกับ 'ซูลิงกัว' ผู้ศึกษาและพัฒนาการสื่อสารกับสัตว์ นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการหาขั้นตอนและวิธีการที่จะเปลี่ยนเสียงของแพรี่ด็อกให้เป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจได้ ซึ่งสโลบอดชิคคอฟ บอกว่าแพรี่ด็อกมีเสียงร้องที่แหลม เพื่อใช้เตือนตัวอื่น ๆ ในฝูงว่าศัตรูกำลังมา ซึ่งความดังและขนาดของเสียงที่เปล่งออกมาก็ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของศัตรู โดยพวกมันยังสามารถแยกแยะสีของเสื้อผ้ามนุษย์ที่กำลังเดินเข้าใกล้ได้อีกด้วย

ดอกเตอร์สโลบอดชิคคอฟ มองว่าถ้าสามารถเข้าใจภาษาของแพรี่ด็อกได้ การเข้าใจสัตว์ทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น สุนัขหรือแมวก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งแม้ว่าตอนนี้ เขาและทีมงานยังไม่ประสบความสำเร็จในการแปลภาษาสุนัขได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ดอกเตอร์สโลบอดชิคคอฟ เชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้มนุษย์รับฟังและเข้าใจสัตว์เลี้ยงมากขึ้น