ปัจจุบันหลายบริษัทที่กำลังเติบโต มีความจำเป็นต้องขยายออฟฟิศเพื่อรองรับพนักงานเพิ่ม ด้วยการพิจารณาย้ายสำนักงานไปยังอาคารอื่นที่มีพื้นที่กว้างมากพอ แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งสำนักงานใหม่ แต่ 'เจแอลแอล' บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่มีสำนักงานกว่า 300 แห่งทั่วโลกชี้ว่า กรุงเทพฯ กำลังประสบปัญหามีพื้นที่สำนักงานเกรดเอไม่เพียงพอกับความต้องการของบริษัทผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง
นางสาวยุพา เสถียรภาพอยุทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการธุรกิจอาคารสำนักงาน เจแอลแอล กล่าวว่า ในช่วงหลายปีก่อนหน้า เมื่อค่าเช่าสำนักงานในกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้น มีบริษัทผู้เช่าหลายๆ บริษัทย้ายออฟฟิศออกจากอาคารเดิมไปยังอาคารอื่นที่เสนอค่าเช่าถูกกว่า โดยเฉพาะอาคารในทำเลที่ห่างจากศูนย์กลางธุรกิจออกไป แต่ในขณะนี้พบว่าแม้ค่าเช่าสำนักงานจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น แต่ปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทหลายๆ บริษัทต้องย้ายออฟฟิศ คือการที่อาคารที่อยู่เดิมไม่มีพื้นที่เพียงพอรองรับการเติบโตของบริษัทได้ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอซึ่งกำลังประสบภาวะพื้นที่ขาดแคลน
ศูนย์บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทยของเจแอลแอล ระบุว่า ขณะนี้ กรุงเทพฯ มีอาคารสำนักงานคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 8.9 ล้านตารางเมตร ในจำนวนนี้เป็นอาคารเกรดเอคิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 3.2 ล้านตารางเมตรซึ่งมีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงประมาณ 6.3% หรือราว 200,000 ตารางเมตร
อย่างไรก็ตามแม้พื้นที่เหลือเช่า 200,000 ตารางเมตร อาจฟังดูเป็นปริมาณที่มาก แต่ในความเป็นจริง พื้นที่ว่างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ ของอาคาร ในขณะที่พื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่ในชั้นเดียวกัน ส่วนใหญ่มีผู้เช่าเต็มแล้ว และมักมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเช่าต่อทันทีที่ผู้เช่ารายเดิมย้ายออก ดังนั้น การเช่าหรือขยายออฟฟิศในอาคารสำนักงานเกรดเอที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับบริษัทและองค์กรขนาดใหญ่
JLL คาดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ทั่วกรุงเทพฯ จะมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จเพิ่มกว่า 451,000 ตารางเมตร แต่ในระหว่างปีนี้ไปจนถึงปี 2564 มีอาคารสำนักงานใหม่กำหนดสร้างเสร็จทั่วกรุงเทพฯ คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกันทั้งสิ้นเพียง 554,000 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยประมาณ 185,000 ตารางเมตรต่อปี
จากการที่อาคารสำนักงานเกรดเอส่วนใหญ่มีผู้เช่าเต็มหรือเกือบเต็ม การเช่าพื้นที่สำนักงานรายการใหญ่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีจำนวนมากที่เป็นการเจรจาจองพื้นที่เช่าล่วงหน้าในอาคารที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างและกำลังจะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้ เนื่องจากโครงการเหล่านี้ยังพอมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่มากพอรองรับบริษัทผู้เช่ารายใหญ่ได้ และเจ้าของโครงการยังมีความยืดหยุ่นในการเจรจาเงื่อนไขการเช่ามากกว่า
ส่วนบริษัทผู้เช่าที่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน แต่ยังไม่พร้อมที่จะย้ายออฟฟิศไปยังอาคารอื่นได้ อาจต้องปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นได้ในพื้นที่เท่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดโต๊ะที่นั่งของพนักงาน ออกแบบให้มี hot desk ลดการกั้นห้องหรือกั้นที่นั่ง และใช้บริการจัดเก็บเครื่องใช้หรือเอกสารข้างนอก เป็นต้น
นางสาวยุพายังกล่าวอีกด้วยว่า เกณฑ์การตัดสินใจเลือกอาคารสำนักงานของบริษัทต่างๆ ในปัจจุบัน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเฉพาะค่าเช่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงภาพลักษณ์ขององค์กรและความสะดวกสบายของพนักงานด้วย โดยเฉพาะในภาวะที่ภาคธุรกิจต่างๆ มีการแข่งขันกันสูงในการแย่งชิงบุคลากรที่มีความสามารถ