เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 มี.ค.61) เป็น 'วันนอนหลับโลก' วันที่เราควรพักผ่อนให้ร่างกายและสมองได้พักฟื้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทำเป็นเทศกาลเท่านั้น แต่ควรทำในทุกๆวัน แม้จะเป็นเรื่องยากของใครหลายๆคน แต่นี่เป็นวิธีสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้สุขภาพดีได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน
วันที่ 16 มีนาคม ของทุกปี ถูกประกาศให้เป็นวันนอนหลับโลก เป็นสิ่งเตือนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการนอนและการพักผ่อนให้เพียงพอ เอนกาย ผ่อนคลาย พักหลับตาซะบ้าง เพราะมันส่งผลดีต่อสุภาพของเราอย่างมากนั่นเอง ไม่ว่าจะช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วน เพราะจากการศึกษาพบว่า คนที่นอนน้อยจะมีค่าดัชนีมวลกายที่เพิ่มขึ้นและเสี่ยงเป็นโรคอ้วน และจากการทดสอบกับเด็กๆ พบว่า เด็กที่นอนหลับเพียงพอจะมีค่าดัชนีมวลกายต่ำกว่าเด็กที่นอนน้อย และทุกๆชั่วโมงหลังจากเข้านอน ดัชนีมวลกายจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนในผู้ใหญ่ พบว่า คนที่นอนหลับเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อคืน จะมีรอบเอวที่ใหญ่กว่าคนที่นอนหลับเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อคืน
ยังไม่จบแค่นี้ การนอนไม่พอ เราอาจได้เพื่อนใหม่ที่ชื่อว่าอัลไซเมอร์ รวมถึงโรคสมองเสื่อมอื่นๆ ด้วย และหากคุณนอนไม่พอ เลยขอชดเชยด้วยการงีบหลับช่วงกลางวัน หากทำแบบนี้กัน ลองคิดใหม่นะคะ เพราะการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา บอกว่า การทำแบบนี้กลับเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ ส่วนท่านอนที่เหมาะสม นักวิจัยแนะนำให้นอนตะแคง จะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง มากกว่าการนอนหงายหรือการนอนคว่ำ เพราะน้ำหล่อเลี้ยงและไขสันหลังจะทำการกรองผ่านสมองและแลกเปลี่ยนกับของเหลวที่อยู่ระหว่างเซลล์ ซึ่งจะทำให้สารเคมีและของเสียที่สะสมอยู่ในสมอง ไม่ว่าจะเป็นอมีลอยด์ เบต้า (amyliod bata) และเทา โปรตีน (tau proteins) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ ก็จะถูกกำจัดออกไปนั่นเอง
และหากคุณไม่อยากเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้าก็ต้องนอนให้เพียงพอเช่นกัน เพราะการนอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมง หรือไม่หลับติดต่อกันหลายคืน ไม่ใช่แค่ขอบตาคล้ำเป็นแพนด้า หรือร่างอาจคล้ายซอมบี้ แต่ที่แน่ๆ คุณจะรู้สึกเครียด วิตกกังวล และเป็นประตูไปสู่โรคภาวะโรคซึมเศร้ารวมถึงปัญหาทางจิตอื่นๆ ได้
และหากคุณนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ คุณจะมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ขณะที่งานวิจัยอีกชิ้น บอกว่า ผู้หญิงที่นอนน้อยกว่า 6.25 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เพิ่มขึ้น 2.84 เท่า