วันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเป็นวันน้ำโลก หรือ World Water Day โดยองค์การสหประชาชาติ ได้เผยรายงานว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำทวีความรุนแรงขึ้น และอาจทำให้ประชากร 5.7 ล้านคนทั่วโลกไม่มีน้ำดื่มในปี 2050
องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยรายงานการพัฒนาน้ำของโลกว่า อีก 32 ปีข้างหน้า ประชากรประมาณ 5.7 ล้านคนทั่วโลกจะเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำดื่ม โดยปัจจุบัน ประชากรครึ่งหนึ่งของโลก ราว 3.6 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างน้อยหนึ่งเดือนต่อปี
โดยขณะนี้มีการจัดประชุมเรื่องน้ำของโลก หรือ World Water Forum ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 23 มีนาคม ที่ประเทศบราซิล และคาดว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ รวมถึงผู้นำประเทศเข้าร่วมรวม 40,000 คน โดยประธานาธิบดีของบราซิล ‘มีแชล เตเมร์’ ได้กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.) ว่า คนทั้งโลกต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้วิกฤตนี้เกิดขึ้น และไม่ควรเสียเวลามากไปกว่านี้
นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรต้องจัดการทรัพยากรน้ำให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบราซิลที่ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของโลก ซึ่งนำน้ำกว่าครึ่งหนึ่งในแม่น้ำและทะเลสาบมาใช้เพื่อการเกษตร
เมาริซิโอ โลเปส ประธานสถาบันค้นคว้าด้านเกษตรกรรม Embrapa กล่าวว่า พวกเขาต้องการลดการใช้น้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และหวังจะพัฒนาพืชพันธุ์ให้ดีขึ้น ไปพร้อมกับการพัฒนาระบบการผลิต และสร้างเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่