หลังจากที่ธนาคาร HSBC ต้องสูญเสียเงินมหาสารเพื่อยุติคดีฟอกเงินที่ธนาคารถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อ 6 ปีก่อน ล่าสุด HSBC ได้เตรียมนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ในการตรวจสอบการฟอกเงิน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง HSBC จากอังกฤษ ได้เปิดตัวเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล บันทึกและติดตามธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า ด้วยซอฟต์แวร์จาก Quantexa สตาร์ตอัปจากอังกฤษ โดยธนาคารเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจสอบแนวโน้มที่จะนำไปสู่การฟอกเงินได้
ก่อนหน้านี้ธนาคาร HSBC เคยต้องยินยอมจ่ายเงินถึง 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 57,000 ล้านบาทให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นค่ายุติคดีการสอบสวนกรณีที่ธนาคารถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งฟอกเงินสำคัญของกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดในเม็กซิโก รวมถึงรับทำธุรกรรมทางการเงินให้กับประเทศที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรอย่างอิหร่านมาแล้ว โดยนอกหนือจากการจ่ายเงิน HSBC ยังยินยอมให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตรวจสอบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันคุ้มครองทางการเงิน หรือ DPA เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี ภายใต้สัญญาที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมามีการระดมทุนจากผู้ให้กู้ทั่วโลกเพื่อดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ เป็นเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3 หมื่น 1 พันล้านบาท ซึ่งรวมไปถึงการระดมทุนในสตาร์ตอัป Quantexa ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ AI ที่ใช้ในการตรวจสอบการฟอกเงินนี้ด้วยเป็นเงินราว 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 100 ล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ปัจจุบันธนาคารชั้นนำของยุโรปหลายแห่งได้เริ่มนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง และตรวจสอบข้อมูล รวมถึงให้บริการลูกค้าอย่างครบถ้วนมากขึ้นแล้ว
การใช้แรงงานคนตรวจสอบการฟอกเงินทำให้ธนาคารต้องลงทุนเม็ดเงินเป็นจำนวนมหาศาล ฉะนั้นการใช้งาน AI จะช่วยให้ประหยัดเงินรวมไปถึงประหยัดเวลาได้ และตอนนี้ธนาคารหลายแห่งก็เริ่มหันมาใช้ AI ในการตรวจสอบธุรกรรมผิดปกติมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารสิงคโปร์อย่าง OCBC เป็นต้น