สื่อดิจิทัลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ตรงกับความต้องการของตัวเองที่สุด เช่น การซื้อรถยนต์ ที่ล่าสุดมีผลวิจัยออกมาว่า การค้นหาข้อมูลออนไลน์ทำให้ผู้บริโภคเลือกรถได้หลากหลายแบรนด์มากขึ้น และตัดสินใจได้เร็วขึ้น
กูเกิล ได้เปิดเผยผลการวิจัยชิ้นใหม่ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย และพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ของคนไทยในปัจจุบัน โดยงานวิจัยดังกล่าวมีชื่อว่า 'Gearshift 2018: Purchase Journey of Thai New Car Buyers' ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กูเกิล และ TNS บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ที่นำเสนอให้เห็นถึงกระบวนการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยการเก็บข้อมูลนั้น ผู้จัดทำได้สัมภาษณ์ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ ทั้งชายและหญิง จำนวน 503 ราย ที่ซื้อรถยนต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่าสมาร์ตโฟนและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูล ทำให้ผู้บริโภคไทยได้รับข่าวสารรวดเร็วและรอบด้านขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ ช่องทางการค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการก็มีอยู่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภครู้ถึงความต้องการของตนเองอย่างชัดเจน ก่อนจะเข้าไปสอบถามกับตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า ผู้บริโภคไทยเปิดรับความคิดเห็นระหว่างการหาข้อมูลมากขึ้น โดยในปีนี้ คนไทยกลุ่มตัวอย่างพิจารณารถยนต์เฉลี่ย 4.7 แบรนด์ ก่อนทำการตัดสินใจซื้อ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2.9 แบรนด์ แสดงให้เห็นว่าคนไทยเข้าถึงข้อมูลรถยนต์หลากหลายแบรนด์มากขึ้น จากการเข้าถึงเสิร์ชเอนจินและวิดีโอ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักบนโลกออนไลน์
ทั้งนี้ 99% ของผู้ซื้อรถยนต์ชาวไทย เลือกใช้เสิร์ชเอนจินเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูล ขณะที่ 96% ดูวิดีโอออนไลน์ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งวิดีโอออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อรถยนต์ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเกือบ 97% ของผู้ซื้อรถยนต์ ที่ดูวิดีโอออนไลน์ จะตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการกระบวนการซื้อหลังจากนั้น และในจำนวนนั้น 62% ได้เข้าไปชมเว็บไซต์ของแบรนด์รถยนต์ที่สนใจต่อด้วย ซึ่งส่วนนี้เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 49% ในปีที่แล้ว
ขณะที่ ปัจจุบัน ผู้ซื้อรถยนต์ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นจากเดิม โดยข้อมูลระบุว่าผู้ซื้อไปโชว์รูมเพื่อเลือกรถยนต์เฉลี่ยเพียง 2.6 ครั้ง และ 44% หรือเกือบครึ่งหนึ่ง ตัดสินใจซื้อหลังการทดลองขับเพียงครั้งเดียว และโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้บริโภคไทยใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์
อย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภค 15% ที่ใช้เวลาตัดสินใจ 2 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า นักการตลาดควรเข้าหาผู้บริโภคตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นหาข้อมูล ไปจนถึงช่วงตัดสินใจ โดยแบรนด์รถยนต์ควรให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และมีประโยชน์ ตั้งแต่วินาทีเเรก ที่ผู้บริโภคเริ่มสนใจ นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญ