ทางการของอังกฤษสั่งปรับเฟซบุ๊กเป็นเงิน 21.2 ล้านบาท จากกรณีที่มีข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านคนรั่วไหล และถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองให้กับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2016
เว็บไซต์ CNN Business รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมาธิการด้านข้อมูลข่าวสารของประเทศอังกฤษเตรียมที่จะสั่งปรับบริษัทเฟซบุ๊กเป็นเงิน 645,000 ดอลลาร์ หรือราว 21.2 ล้านบาท เนื่องจากเฟซบุ๊กบกพร่องในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้งาน และมีกระบวนการทำงานที่เชื่องช้าในการระงับการรั่วไหลของข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังบริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง เคมบริดจ์ อนาลิติกา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมาธิการด้านข้อมูลข่าวสารของประเทศอังกฤษได้เริ่มต้นทำการสอบสวนทันที หลังจากที่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านบัญชีนั้นรั่วไหลไปยังบริษัทเคมบริดจ์ อนาลิติกา ที่ปรึกษาทางการเมืองให้กับแคมเปญการหาเสียงให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา จนกระทั่งนายทรัมป์ประสบความสำเร็จและชนะการเลือกตั้ง
เฟซบุ๊กกล่าวในแถลงการณ์ว่า แม้จะมีหลายประเด็นที่ทางเฟซบุ๊กไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาที่ทางการอังกฤษแจ้งมา แต่ทางบริษัทยอมรับว่าพวกเขาควรลงมือทำอะไรบางอย่าง เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของข้อมูลจากกรณีนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2015 เพื่อไม่ให้การรั่วของข้อมูลบานปลายจนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างที่เป็น อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขของค่าปรับนี้จะดูไม่สูงมากเมื่อเทียบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นและรายได้ของเฟซบุ๊ก แต่ทางสำนักงานคณะกรรมาธิการด้านข้อมูลข่าวสารของประเทศอังกฤษย้ำว่า หากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก จะมีบทลงโทษที่รุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า