วันนี้ (11 เม.ย. 61) ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส จะมีการจัดประมูลโครงกระดูกของไดโนเสาร์ 2 ตัว เพื่อให้ผู้สนใจได้ซื้อไปประดับบ้าน ซึ่งการซื้อฟอสซิลไปประดับห้องรับแขกถือเป็นเทรนด์ฮิตที่กำลังมาแรงในกลุ่ม เศรษฐี
บิโนช เอต์ จีเกโย (Binoche et Giquello) บริษัทจัดประมูลของฝรั่งเศส เตรียมเปิดประมูลฟอสซิลของไดโนเสาร์สองตัวต่างสายพันธุ์ในวันนี้ ที่กรุงปารีส ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ตามเวลาฝรั่งเศส โดยไดโนเสาร์ทั้งสองได้แก่ ‘อัลโลซอรัส (Allosaurus)’ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์นักล่าขนาดเล็ก ที่ลำตัวยาว 3.8 เมตร โดยคาดว่าจะถูกประมูลไปในราคา 650,000 ยูโร หรือราว 25 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมี ‘ไดพลอโดคัส (Diplodocus)’ หรือกิ้งก่าสันคู่ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ ยาว 12 เมตรจากการวัดจากจมูกถึงหาง คาดว่าจะถูกขายในราคาประมาณ 450,000 to 500,000 ยูโร หรือราว 17 - 19 ล้านบาท
ยาโคโป บริอานโน (Iacopo Briano) ผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาลี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า การนำไดโนเสาร์มาประดับบ้านนั้นถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง ไม่ต่างจากของประดับอื่น เช่น ภาพวาด โดยนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังทั้ง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และนิโคลัส เคจ ก็นิยมสะสมฟอสซิลโบราณขนาดใหญ่นี้เช่นกัน
บริอานโนให้ข้อมูลว่า ช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนได้ให้ความสนใจด้านธรณีวิทยาที่ศึกษาซากฟอสซิลโดยเฉพาะ และพยายามเสาะหาโครงกระดูกไดโนเสาร์ในประเทศ เพื่อนำไปประดับที่พิพิธภัณฑ์หรือที่บ้าน โดยนักซื้อหน้าใหม่นี้ต้องประมูลแข่งกับองค์กรจากหลายประเทศ รวมถึงมหาเศรษฐีจากยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ซื้อหน้าเดิมในตลาดนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านฟอสซิลให้ข้อมูลว่า ซากดึกดำบรรพ์ที่นำไปประมูลนั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจหรือจะนำไปศึกษาต่อ โดยแต่ละปีมีฟอสซิลไดโนเสาร์ประมาณ 5 ตัวที่ถูกนำไปประมูลทั่วโลก และหากโครงกระดูกนั้นมีร่องรอยของการต่อสู้ หรือป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือเป็นของหายาก ราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันตลาดการซื้อโครงกระดูกไดโนเสาร์ไปประดับบ้านนี้ยังถือว่าเล็กและเฉพาะกลุ่ม