คาเฟ่ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเปิดจำหน่าย 'ราเม็งปลาปิรันย่า' ครั้งแรกของโลก เมื่อวันที่ 20 ถึง 23 กันยายนที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้าที่ชอบของแปลก ซึ่งรสชาติปลาปิรันย่าในเมนูอาหารแบบญี่ปุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ต้องไปฟังจากความเห็นผู้ที่ลองชิมกันไปแล้ว
ร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ เป็นธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในย่านอาซะคุสะของกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดกิจกรรมแปลกแหวกแนว เพราะเป็นธุรกิจย่อยของบริษัททัวร์ 'ฮอลิเดย์ แจ็ก' และคาเฟ่แห่งนี้เพิ่งจัดกิจกรรมพิเศษไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยการชวนลูกค้าให้มาชิม 'ราเม็งปลาปิรันย่า' โดยรับประกันว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่นำปลาปิรันย่ามาทำเป็นเมนูราเม็งให้ได้ชิมกัน
'โทโมอากิ ยาโนะ' ซีอีโอของบริษัทฮอลิเดย์ แจ็ก ผู้จัดกิจกรรมราเม็งปลาปิรันย่าที่คาเฟ่แห่งนี้ บอกกับสื่อมวลชนว่า ทางร้านนำเข้าปลาปิรันย่าจากลุ่มแม่น้ำแอมะซอนของบราซิล จำนวน 300 กิโลกรัม ซึ่งมีจำนวนประมาณ 2,000 ตัว นำมาต้มเป็นน้ำซุปราเม็ง รวมถึงทอดกรอบรับประทานร่วมกับเส้นราเม็ง โดยวัตถุดิบทั้งหมดนี้สามารถทำเป็นราเม็งได้ประมาณ 1,000 ชาม ทำให้ทางร้านเปิดขายเมนูพิเศษนี้แค่ 4 วันเท่านั้น คือช่วงวันที่ 20 ถึง 23 กันยายนที่ผ่านมา
ราเม็งปิรันย่ามีให้เลือก 2 เมนู คือ ราเม็งน้ำซุปปิรันย่า ราคาชามละ 3,000 เยน หรือประมาณ 844 บาท ส่วนราเม็งพร้อมน้ำซุปปิรันย่า เสิร์ฟพร้อมหัวปลาปิรันย่า จะมีราคาต่อชาม 5,500 เยน หรือประมาณ 1,548 บาท
ลูกค้าที่มีโอกาสได้รับประทานราเม็งปิรันย่าบอกเล่าความรู้สึกว่า ในตอนแรกคิดว่าปลาคงจะไม่มีเนื้อเยอะมากนัก และไม่แน่ใจว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้ชิมแล้วก็รู้สึกว่ารับประทานง่าย เนื้อปลาปิรันย่าให้รสและกลิ่นคล้ายกับปลาจาน ซึ่งในประเทศไทยมีปลาที่อยู่ในวงศ์นี้เรียกว่า 'ปลาอีคุด' ขณะที่ลูกค้าอีกรายหนึ่งบอกว่า น้ำซุปที่เคี่ยวจากปลาปิรันย่านั้นรสชาติอร่อยดี จนสามารถรับประทานได้หมดอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือการแกะก้างปลานั้นง่ายกว่าที่คิดมาก
เจ้าของไอเดียราเม็งปิรันย่าระบุด้วยว่า ต้นตอที่ทำให้เกิดเมนูนี้ขึ้นมาจริงๆ เกิดจากเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเอพริลส์ฟูล บริษัทฮอลิเดย์ แจ็ค ได้โฆษณากิจกรรมหลอกๆ ว่า ทางร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ จะจำหน่ายราเม็งปิรันย่า แต่ปรากฏว่ามีคนสนใจและถามกันเข้ามามากว่ามีเมนูนี้จริงหรือไม่ ทำให้ทางบริษัทต้องจัดหาเมนูนี้มาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สนใจ
ส่วนสาเหตุที่ต้องรอนานหลายเดือน เป็นเพราะเส้นทางขนส่งปลาปิรันย่าเหล่านี้ต้องใช้เวลานาน โดยเริ่มจากลุ่มน้ำแอมะซอนไปยังนครรีโอเดจาเนโร ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจของบราซิล จากนั้นจึงถูกส่งต่อไปยังสหรัฐอเมริกา ก่อนจะมาถึงปลายทางที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น คิดค่าส่งต่อกิโลกรัมคือ 10,000 เยน หรือประมาณ 2,800 บาท ทำให้ราคาราเม็งปิรันย่าชามหนึ่งแพงกว่าราเม็งทั่วไปในท้องตลาดหลายเท่า แต่ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะมีลูกค้าจำนวนมากมาต่อแถวรอรับประทานราเม็งปลาปิรันย่าจนวัตถุดิบหมดเกลี้ยง
ปลาปิรันย่าเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะปลาน้ำจืดที่กินเนื้อเป็นอาหาร พบมากในแม่น้ำแอมะซอน รวมถึงแม่น้ำบางสายในทวีปอเมริกาใต้ แม้แต่สัตว์ใหญ่ที่อยู่ในน้ำก็อาจจะถูกฝูงปลาปิรันย่าโจมตีและกินเนื้อเป็นอาหารได้ โดยเฉพาะสัตว์ที่บาดเจ็บและมีเลือดไหล ส่วนการบริโภคปลาปิรันย่าก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะชาวอเมริกาใต้จำนวนมากรับประทานปลาปิรันย่าอยู่แล้ว แต่ที่นำมาทำเป็นราเม็ง ทางร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ โฆษณาว่าร้านของเขาเป็นเจ้าแรกที่ทำเมนูนี้
ส่วนการนำเข้าปลาปิรันย่ามายังประเทศไทย มีกฎหมายห้ามนำเข้าตัวที่ยังมีชีวิต เพราะถือเป็นสัตว์ต่างถิ่น ถ้าเข้ามาในประเทศแล้วถูกปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ แต่ถ้านำเข้ามาในรูปอาหารแช่แข็งเพื่อนำมาบริโภค เช่น ร้านอาหาร หรือภัตตาคาร สามารถนำเข้ามาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย