นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า 'กลยุทธ์ล้มรัฐบาล'
การอภิปรายที่สภาวันก่อนไม่ได้มีอะไรใหม่ หาสาระที่ประชาชนจับต้องไม่ได้ ยังคงเป็นการสะกิดอดีต ตอบโต้ ประท้วง ยั่วยุให้โมโห ใช้ลีลาประกอบ แล้วหาช่องทิ่มแทง เป็นเรื่องปกติที่ทุกสมัยทำกัน หากคิดจะเล่นของแรงเขย่ารัฐบาลได้ ต้องมีข้อมูลลับ ชนิดชาวบ้านอ้าปากค้าง ต้องให้สังคมเชื่อฝ่ายค้านมากกว่ารัฐบาล ตอนนี้เรียกว่าแค่ประลองกำลังหยั่งเชิงกันเฉยๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่
จึงขอแนะนำ จากอดีตฝ่ายค้านที่เคยอภิปรายวันแถลงนโยบายจนรัฐบาลจุกอก ดังนี้
1. หลักฐานเด็ด ที่ข้าราชการประจำต้องให้ความร่วมมือ (เป้าหมาย)
2. ประเด็นที่กระทบจิตใจของสังคม ทำให้สาธารณชนตระหนัก (หัวใจ)
3. ผู้นำเสนอ ต้องมีแรงกระตุกที่รุนแรงด้วยลูกล่อลูกชนที่ครบเครื่อง (เครื่องมือ)
ทั้งสามอย่างต้องประกอบกันด้วยสัดส่วนที่ลงตัวคือแรงสั่นสะเทือนที่หัวหน้ารัฐบาลต้องระวังตัว ยิ่งระวังมาก โอกาสที่ลิ่วล้อจะทำพลาดก็ยิ่งมาก ตามประสาการเมืองไทย
ไม่มี 3 อย่างนี้ ก็ยากที่จะคิดไปล้มตอ หากจะไปเอาเรื่องที่ชาวบ้านจับต้องไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว มันไม่มีแรงกระเพื่อมแต่อย่างใด เมื่อมวลชนไม่มี นักการเมืองพูดไปก็ไร้ความหมาย เหมือนคนดูมวย ชกไม่สนุก ไม่ต้องลุ้นตอนจบก็รู้อยู่แล้วว่าใครชนะ แต่หากขยันปล่อยหมัด แม้ว่าแพ้คะแนน แต่ชนะใจคนดู ครั้งหน้ารัฐบาลยิ่งกลัว รอจังหวะเผลอวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลไม่ล้ม แต่หมดความน่าเชื่อถือ
รอนับวันเลือกตั้งใหม่