“บิ๊กตู่” บอกพรรคไหนจะทาบทามให้เอานโยบายมาดู ชี้ ถูกทุกพรรครุม ชู นโยบายต่อสู้ ‘พรรคทหาร’ ไม่หวั่นเปลืองตัวลุยการเมือง บอกถ้ากลัว ต้องกลัวตั้งแต่ 22 พ.ค. ’57 แล้ว
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ “อนาคตไทย อนาคตเรา : Our Country Our Future” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ หลังเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินลงมาเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ซึ่งเมื่อเดินผ่านร้านค้าภายในห้าง พร้อมทักทายนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการอย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังชวนผู้สื่อมาดื่มกาแฟอย่างอารมณ์ดี ที่ร้าน Twinings โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ร่วมวง
โดยนายกฯ ได้สั่งกาแฟอเมริกาโน่ร้อน และชา London Strand Earl Grey พร้อมของว่างอย่างบลูเบอร์รี่มัฟฟิน สโคนเซต และทไวน์นิ่งซิกเนเจอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่พล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้เวลานอกกำหนดการเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พล.อ.ประยุทธ์ถูกจับตามองที่จะตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งการมานั่งดื่มกาแฟครั้งนี้คาดเป็นการปรับท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จากที่ดูดุดันให้เข้าถึงง่ายขึ้น ดูผ่อนคลายและเป็นกันเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนในประเด็นการเมืองนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ออกมาในขณะนี้ก็ไม่พ้นสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไปแล้ว แต่เขาจะทำให้มากขึ้นใช้เงินให้มากขึ้นจากจะให้ 600 บาทให้เป็น 800 บาท แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาให้ ส่วนนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ซึ่งไปพ้องกับชื่อของพรรคการเมืองบางพรรคนั้น พรรคดังกล่าวเกิดมาภายหลังรัฐบาลไม่ใช่หรือ ตนขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน
การทำงานในนโยบายของประชารัฐทำกันมานานแล้ว ทางนักการเมืองก็ไปหาชื่อให้มันสอดคล้อง อย่างพรรค ทษช. (ไทยรักษาชาติ ) สื่อก็รู้ว่าตั้งมาอย่างไร แล้วตัวย่อมาจากอะไร อย่างไรก็ตามในเมื่อพรรคการเมืองทุกพรรคต้องการที่จะเป็นรัฐบาล ต้องการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนก็ต้องดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง ทำไมจะต้องเลิกของเก่ากันหมดเลยหรือ อะไรที่ดีก็ต้องทำต่อ ไม่ใช่ว่าอะไรที่เกิดในรัฐบาลก่อนต้องเลิกหมดมันไม่ใช่
เมื่อถามว่า เหตุใดนายกฯ ถึงพูดว่ามีคนไม่พอใจทหารบ่อยครั้งในช่วงนี้ มีกระแสมากขนาดนั้นเลยหรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า มี ทุกพรรครุมทหารหมดนั้นแหล่ะ กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคทหารกับพรรคประชาธิปไตย สื่อก็รู้อยู่ ทำไมต้องต่อสู้กันเอง เลิกเสียทีการเมืองแบบนี้
เมื่อถามว่ากรณีที่นายกฯ ระบุว่า มีคำตอบในใจว่าจะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ในใจไง เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในบัญชี พรรค พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายพรรคมั้ง ขอดูก่อนสิ หลายๆ พรรคเขาก็สนับสนุนเรา แต่ปัญหาเราคือ เราเลือกได้พรรคเดียว ก็ดูก่อนว่านโยบายเขาเป็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่า มีคนมองนโยบายของพรรคพลังประชารัฐสานต่อนโยบายรัฐบาลนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่เห็นเลย เขาต้องทำนโยบายมาให้ตนดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่า มีหลายพรรคการเมืองติดต่อมา มีพรรคใดทาบทามมาแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าาว่า ก็เขาพูดในสื่อ เมื่อถามย้ำว่า วันนี้เหมือนจะมีพรรคเดียว คือพรรคพลังประชารัฐที่เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ในนามของพรรค พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำว่าสนับสนุนมี 2 อย่าง คือ เสนอชื่อเป็นนายกฯ ซึ่งตอบรับให้ได้เพียงพรรคการเมืองเดียว แต่พรรคอื่นที่มีอยู่หลายพรรคก็บอกว่าจะเสนอตน ซึ่งเป็นการสนับสนุน การบริหารราชการแผ่นดิน
เมื่อถามว่า หากตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมืองไม่กลัวเปลืองตัวหรือ เพราะจะเป็นเป้าหมายในการโจมตีของฝ่ายการเมือง นายกฯ กล่าวว่า “ถ้ามันโจมตีไม่ใช่เรื่อง ผมก็ไม่สนใจ แล้วถ้าผมกลัวจะเข้ามาทำไม ถ้ากลัวก็ต้องกลัวตั้งแต่ 22 พ.ค.57 แล้ว จบไหม ถ้ากลัวผมไม่ตัดสินใจแบบนี้หรอก”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนคนที่สนับสนุนตนก็หวังว่า เขาจะเข้าใจตนมากขึ้น อยากให้เข้าใจสถานการณ์ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตคืออะไร การเมืองควรจะต้องเป็นอย่างไร ตนคาดหวังกับ 4 ปีที่ทำมา คนไทยต้องรู้จักและเอาทุกอย่างมาเป็นบทเรียน อย่าให้เกิดขึ้นอีก ถ้าไม่เกิดขึ้นอย่างในอดีตตนก็ไม่มีทางมายืนอยู่ตรงนี้หรอก