ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นักเดินทางชาวไทยคนไหนมีโอกาสได้ไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรามีจุดเช็คอินใหม่มาแนะนำ นั่นคือ ร้านสตาร์บัคส์ระดับพรีเมียมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง
หนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่พลาดไม่ได้ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หนีไม่พ้นย่านนากาเมกุโระแน่นอน ทุกปีจะมีทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะไปชมความสวยงามไม่ขาดสาย
สำหรับปีนี้ย่านนากาเมกุโระ มีจุดเช็คอินใหม่ให้น่าตื่นตาตื่นใจเพิ่มเติม นั่นคือ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาใหม่ ระดับพรีเมียมไฮเอนด์ ลำดับที่ 5 ของโลก ต่อจากซีแอตเทิล เซี่ยงไฮ้ มิลาน และนิวยอร์ก ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทันทีที่เปิดให้บริการ ที่นี่คว้าแชมป์ร้านสตาร์บัคส์ใหญ่ที่สุดในโลกไปครอง เพราะร้านนี้ ใช้พื้นที่เต็มอาคาร 4 ชั้น รวมกว่า 32,000 ตารางเมตร แบ่งสัดส่วนเป็นโรงคั่วกาแฟ ร้านขนมปังสัญชาติอิตาลี ให้บริการชา กาแฟ มีคอคเทลบาร์สาขาแรกในญี่ปุ่น ส่วนชั้นบนสุด เป็นโซนเอาต์ดอร์ มีพื้นที่สำหรับจัดสัมมนาและประชุมธุรกิจเพิ่มเติม
สิ่งที่ไม่ธรรมดาอีกเรื่อง คือทั้งหมดออกแบบโดย เคนโกะ คุมะ สถาปนิกชื่อดัง ผู้ออกแบบสนามกีฬาแห่งใหม่ในกรุงโตเกียวที่จะใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก 2020 การออกแบบจึงแฝงไปด้วยสัญลักษณ์สำคัญของญี่ปุ่นอย่างดอกซากุระ
หากมองจากภายนอก ที่นี่ดูเหมือนมหาวิหาร ส่วนการตกแต่งภายใน ดอกซากุระคือไฮไลท์ การตกแต่ง จึงเต็มไปด้วยดอกซากุระประดิษฐ์มือกว่า 2,100 ดอก เคียงคู่กับถังกาแฟขนาดใหญ่สูง 17 เมตร
นอกจากการเปิดให้บริการสตาร์บัคส์ระดับพรีเมียมแห่งที่ 5 ของโลกแล้ว สตาร์บัคส์ยังวางแผนให้สาขานี้ เป็นสถานที่ฝึกและพัฒนาฝีมือบาริสต้าในประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งปัจจุบันในญี่ปุ่น มีสาขาสตาร์บัคส์กว่า 1,440 แห่งใน 47 จังหวัด มีพนักงานมากกว่า 37,000 คน