การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่จะมาทำงานแทนมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ประเทศหนึ่งที่มุ่งพัฒนาเพื่อมาทดแทนคนอย่างจริงจัง จนตอนนี้มีจำนวนหุ่นยนต์มากที่สุดในโลก คือ ประเทศจีน ปัจจัยหลัก ๆ เบื้องหลังการเร่งพัฒนานี้คืออะไร ไปคุยกับคุณหนอ - นรณฏฐ ไชยคำ
เมื่อพูดถึงจีน หลายคนจะถึงนึกจำนวนประชากรเยอะที่สุดในโลก แต่เชื่อหรือไม่ว่า ประชากรหุ่นยนต์เขาก็เยอะที่สุดในโลกด้วย ยิ่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใช้ทำงานแทนมนุษย์ด้วยแล้ว โดยตอนนี้มีหุ่นยนต์ทำงานในโรงงานทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 68 ตัว ต่อคนงานทุก ๆ 10,000 คน ซึ่งเขาตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนเป็น 150 ตัว ต่อคนงานทุก ๆ 10,000 คน ให้ได้ภายในปี 2020 หรือก็คืออีก 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Made in China 2025 ด้วย ที่จะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน
แต่เหตุผลหนึ่งที่ต้องเร่งพัฒนาก็คือปัญหา Aging Population หรือ สังคมสูงอายุ และจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ จีนเคยประกาศใช้นโยบายบายลูกคนเดียว ทำให้สัดส่วนประชากรวัยแรงงานไม่สมดุลกับยุคก่อนหน้าและหลังจากนั้น โดยมีประมาณการกันว่าภายในปี 2050 จะมีคนอายุเกิน 65 ปี 29 เปอร์เซ็นต์ขจากจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มจากปี 2015 (3 ปีก่อน) มา 19 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับว่าในปี 2050 นั้น 1 ใน 4 ของคนจีนจะเป็นคนแก่
ประเทศที่มีปัญหาสังคมสูงอายุเหมือนกันก็เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ก็เร่งสร้างเทคโนโลยีทดแทนมนุษย์เช่นกัน แต่ความกระตือรือร้นอาจไม่เท่าการวางหลักการของรัฐบาลจีน ซึ่งทางเอกชนจีนก็สนองนโยบายอย่างแข็งขันค่ะ เพราะบริษัทจีนที่เป็นเจ้าของกิจการผลิตจักรกลอย่าง Midea ออกมาประกาศว่าเตรียมจะพัฒนานวัตกรรมเพื่อคนแก่โดยเฉพาะ ทั้งวีลแชร์จักรกลและตู่เย็นระบบ AI เพื่อให้คนแก่ชนชั้นกลางใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองง่ายขึ้น อันนี้น่าสนใจมากนะ หันกลับมาดูบ้านเรา หนอว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังไม่เน้นการแก้ปัญหาสังคมมากนัก