The 2018DQ Impact Study จากประเทศสิงคโปร์ เผยผลวิจัยว่า เยาวชนทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภัยบนโลกออนไลน์เฉลี่ย 56 เปอร์เซ็นต์ โดยเยาวชนไทยมีความเสี่ยงสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และยังใช้เวลาบนหน้าจอเกินค่าเฉลี่ยโลกเช่นกัน
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และ DQ institute ประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยการศึกษา The 2018DQ Impact Study ที่จัดทำระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ปี 2560 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างเยาวชนทั่วโลกที่มีอายุระหว่าง 8 ถึง 12 ปี รวม 37,967 คน ซึ่งเป็นเด็กไทยจำนวน 1,300 คน ผ่านแบบสำรวจออนไลน์ผลปรากฏว่า เด็กไทยมีโอกาสเสี่ยงภัยจากโลกออนไลน์ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 56 เปอร์เซ็นต์ โดยประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดคือโอมานที่วัดได้ 78 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศที่มีโอกาสเสี่ยงน้อยที่สุดคือญี่ปุ่นซึ่งวัดได้ 16 เปอร์เซ็นต์
สำหรับภัยออนไลน์ที่เกิดจากการใช้สื่อดิจิทัลของเด็กไทยที่พบมากที่สุด 4 ประเภทคือ 1. การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ หรือ Cyber bullying 2. การเข้าถึงสื่อลามกและคุยกับคนแปลกหน้าเรื่องเพศ 3. การติดเกม 4. การถูกล่อลวงให้ไปพบคนแปลกหน้า
นอกจากนั้น เด็กไทยยังใช้เวลากับหน้าจอท่องอินเทอร์เน็ต 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 3 ชั่วโมง โดยมีการเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ตโฟนสูงสุดถึง 73 เปอร์เซ็นต์ สำหรับกิจกรรมยอดนิยม 5 อันดับแรกคือ การชมวิดีโอออนไลน์ การค้นหาข้อมูล การฟังเพลง การเล่นเกม และการอีเมลหรือแชตผ่านแอปพลิเคชั่น โดยเด็กไทยยังใช้โซเชียลมีเดียสูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 12 เปอร์เซ็นต์