ดิสนีย์ยังต้องเผชิญปัญหาอีกมากในการบุกตลาดสตรีมมิง แต่ CEO ของบริษัทยืนยันจะให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มนี้เป็นอันดับหนึ่ง และพร้อมสู้กับ��จ้าตลาดรายใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์
เว็บไซต์ The Verge รายงานอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Variety เกี่ยวกับความท้าทายที่บริษัทดิสนีย์ต้องเผชิญ หลังจากมีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่าต้องการจะลงมาแข่งในสนามของการให้บริการสตรีมมิง เพื่อให้บริการรับชมภาพยนตร์ออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการประกาศเป็นคู่แข่งกับผู้เล่นแถวหน้าของวงการอย่างบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ที่มีการประเมินว่าเม็ดเงินลงทุนในการสร้างคอนเทนต์ของตัวเองในปีนี้สูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 423,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยในรายงานระบุว่า แม้ดิสนีย์จะมีทรัพยากรที่เป็นผลงานภาพยนตร์มากมายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แต่การบุกตลาดธุรกิจสตรีมมิงจำเป็นจะต้องดำเนินงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากดิสนีย์ยังคงต้องรับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดจากสัญญาที่ทำไปก่อนหน้า เช่น การทำสัญญาลิขสิทธิ์การฉายภาพยนตร์เรื่อง 'สตาร์วอร์ส' มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ที่ดิสนีย์ทำไว้กับบริษัทเทอร์เนอร์ เจ้าของเครือข่ายเคเบิลทีวีชื่อดังของสหรัฐฯ ในปี 2016 ซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถนำผลงานมาฉายบนแพลตฟอร์มของตัวเองได้เพียงที่เดียว รวมถึงสัญญาที่ดิสนีย์อนุญาตให้เน็ตฟลิกซ์สามารถสตรีมผลงานของดิสนีย์ได้อีกด้วย
ขณะนี้ แม้ว่าดิสนีย์จะยังไม่มีการเปิดเผยแม้แต่ชื่อเฉพาะของบริการสตรีมมิงออกมา แต่ CEO ของดิสนีย์ยืนยันว่ามีการวางกลยุทธ์มากมาย เพื่อที่จะเอาชนะความท้าทายทางธุรกิจที่กำลังเผชิญ พร้อมยังมีการยืนยันอีกด้วยว่า ต่อจากนี้ไป บริการสตรีมมิงจะถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของดิสนีย์ที่จะต้องสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นให้ได้ และในช่วงของการเปิดตัวการให้บริการสตรีมมิงจะมีการเก็บค่าบริการที่ถูกกว่าเน็ตฟลิกซ์อย่างแน่นอน
Source
https://www.youtube.com/watch?v=hTm_4cB3UV4
https://www.youtube.com/watch?v=jpuC7WSxFTI