รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 28 เมษายน 2563
“ประยุทธ์” ชู พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คุมโรคได้ผลจนต่างชาติยอมรับ “อ.วิโรจน์” ขอท้วง หลังเคยบอกว่า ไม่ได้มี พ.ร.ก.ไว้ปิดปาก แต่ก็ยอมรับเองว่าจะใช้สกัดเฟคนิวส์
”อ.หญิง” ก็ชี้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งที่ยอดติดเชื้อใหม่ลดลงจนเหลือไม่ถึง 10 ชี้ชัดคงกฎหมายไว้ เพื่อคงอำนาจ แถม “อ.วิโรจน์” ทวงคู่มือเปิดเมือง และรัฐบาลมีอะไรบ้างสนับสนุนประชาชนบ้าง...หน้ากาก 200 ล้านชิ้น ก็ยังไม่เจอ!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุม ครม. ว่า จำเป็นต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน โดยข้อกำหนดยังคงอยู่ส่วนหนึ่ง และมีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมเรื่องอื่น จะต้องรอฟังคณะกรรมการ ที่จะประชุมและแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
“ผมเข้าใจดีท่านลำบาก ผู้มีรายได้น้อย ก็ต้องทยอยดำเนินการ เยียวยาตามที่งบประมาณมีนะครับ ท่านเดือดร้อน ผมก็เดือดร้อนด้วย ย้ำว่าต้องรอฟังอีกครั้งในการแถลงข่าวมาตรการผ่อนปรนในสัปดาห์นี้นะครับ ตอนนี้มีหลายมาตรการ ก็มีกำหนดออกมาแล้ว
อันที่สอง การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเพื่อผ่อนปรนมาตรการลงไปแล้ว จะประเมินใน 14 วัน ผมก็คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยนะครับ ขณะเดียวกัน ขอผู้ประกอบการธุรกิจเห็นใจรัฐบาลบ้าง เราต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชน หากมีการผ่อนคลายมาตรการแล้ว หากเกิดระบาดอีกก็จำเป็นต้องปิด ก็ขอให้ใจเย็นนิดนึง สถานการณ์ตอนนี้มันกดดันเข้ามา ไม่ใช่ประเทศไทยเราประเทศเดียว ทั้งภูมิภาค ทั้งโลก ก็เดือดร้อนกันไปหมด
ส่วนกรณีวันหยุดราชการในเดือน พ.ค. นายกฯ ระบุว่า ให้หยุดตามปกติ เพียงแต่ต้องเข้มงวด ดูแลให้ดีที่สุด มาตรการจำกัดการเข้าออก ทางบก น้ำ อากาศ ก็ต้องหยุดเหมือนกัน เคอร์ฟิวก็เวลาเดิม งดเคลื่อนย้ายในท้องถิ่น ก็เช่นเดิม ขอประชาชนระวังระวังหรือหลีกเลี่ยง การเข้าพื้นที่ ที่มีกิจกรรมที่มีคนมาก และย้ำอีกรอบว่า มาตรการผ่อนปรน จะปลดล็อกกิจกรรมมีความเสี่ยงน้อยก่อน แล้วถึงเวลาปลดล็อกจะแจ้งให้ทราบ ขออย่าเรียกร้องมากนัก เพราะไม่อยากให้ย้อนกลับไปตรงที่เดิม ส่วนแรงงานในระบบประกันสังคมจะดูแลให้ดีที่สุด
นายกฯ ยังระบุอีกว่า ไม่ขอตอบประเด็นทางการเมือง เพราะต้องดูแลความเป็นอยู่ประชาชน และว่า อย่าพูดกันเลยช่วงนี้ เรื่องพูดบิดเบือนอะไร และว่าไม่สามารถดูแลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราต้องดูแลทั้งหมด
นายกฯ กล่าวถึงกรณีรับฟังความเห็นภาคธุรกิจ 20 มหาเศรษฐี ยืนยันว่าไม่มีใครพูดเรื่องส่งเงิน ให้เงินเข้ามา มีแต่เสนอว่ามีความพร้อมช่วยเหลือการบริหารจัดการน้ำ และลดเหลื่อมล้ำ ผ่านการดูแลผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อยู่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ไม่ควรมีข้างใคร ทุกฝ่ายมองมุมเดียวกัน ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไป เราก็ต้องดำเนินการตาม 6 ข้อที่เรามีเพื่อไปสู่อนาคต และยังขอบคุณ 20 มหาเศรษฐี ที่ไม่มีใครร้องขอผลประโยชน์ หรือมาเสนอเงินให้ แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือ กรณี เฟกนิวส์ จะดำเนินการตามกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่มีโทษรุนแรงกว่าพ.ร.บ.คอมฯ หรือกฎหมายหมิ่นประมาท