เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่นักอนุรักษ์พยายามเรียกร้องในสวนน้ำในหลายประเทศทั่วโลกหยุดการแสดงวาฬเพชฌฆาต เพราะ 'ความน่ารัก' ที่นักท่องเที่ยวเห็นล้วนเป็นอาการผิดปกติและร่องรอยของความเครียดของสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากมีการเผยแพร่สารคดีชีวิตของวาฬเหล่านี้ว่าถูกเลี้ยงดูอย่างย่ำแย่เพียงใด อย่างไรก็ตาม สัตว์น้ำทั้งหมดยังคงต้องใช้ชีวิตในบ่อขนาดไม่ใหญ่นัก และเป็นทรัพย์สินของสวนน้ำอยู่เช่นเดิม จนล่าสุด วาฬชื่อดังของสวนน้ำออร์แลนโดได้ตายลงอย่างมีปริศนา
หนึ่งในข่าวใหญ่สัปดาห์นี้สำหรับคนรักคงหนีไม่พ้นกรณีที่วาฬเพชฌฆาต 'เคย์ลา' ในสวนน้ำ SeaWorld Orlando ในรัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ ตายลงอย่างปริศนาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังมีอาการอึดอัด ไม่สบายตัว ในช่วง 2 วันก่อนหน้า โดยเคย์ลามีอายุ 30 ปี และเป็นหนึ่งในวาฬเพชรฌาตที่อายุยืนที่สุดของสวนน้ำ แม้ว่าอายุขัยของวาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติจะอยู่ในช่วง 50 ถึง 80 ปีก็ตามสัตว์ การตายครั้งนี้จึงทำให้องค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมทั้งตั้งคำถามกับการเลี้ยงดูสัตว์ของสวนน้ำ เพราะวาฬอายุขนาดนี้ถือว่าอยู่ในช่วง 'ไพรม์' หรือช่วงที่ดีที่สุดในชีวิต และไม่น่าจะตายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนเช่นนี้
ทั้งนี้ SeaWorld เคยประกาศปรับเปลี่ยนแผนการทำงานในโครงการวาฬเพชฌฆาตเมื่อปี 2016 โดยระบุว่า ทางสวนน้ำจะไม่เพาะพันธุ์วาฬอีก และจะค่อย ๆ ลดทอนโชว์วาฬลง จนเลิกโชว์ให้ได้ภายในปี 2019 หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างจากวิถีปฏิบัติที่สวนน้ำกระทำต่อวาฬในความดูแล ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาเป็นสารคดีที่ชื่อว่า Blackfish เมื่อปี 2013
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สวนน้ำได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เคย์ลาเริ่มมีอาการผิดปกติตั้งแต่วันเสาร์ และสัตวแพทย์ก็พยายามหาสาเหตุของความผิดปกตินี้แล้ว แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งมันตายลงในช่วงดึกของวันอาทิตย์ต่อเนื่องวันจันทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า ทีมงานทุกคนล้วนเสียใจกับการจากไปครั้งนี้ และเคย์ลา ซึ่งเป็นวาฬที่เกิดในสวนน้ำ และกลายเป็นสตาร์ของที่นี่ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับแขกผู้มาเยือนและเจ้าหน้าที่จำนวนมากมายรุ่นแล้วรุ่นเล่า
อย่างไรก็ตาม การจากไปของเคย์ลาไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าหลังจากนี้ ทางสวนน้ำจะปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลวาฬหรือไม่ และอย่างไร ซึ่งสวนน้ำก็ระบุเพียงว่า การที่มีสมิกตายไปเช่นนี้ จะส่งผลกระทบ 'ทางสังคม' ต่อวาฬตัวที่เหลืออยู่ แต่จะไม่เกิดผลร้ายต่อสุขภาพกายหรือใจตามมา ด้าน PETA ได้ทวีตไว้อาลัยเคย์ลาด้วยข้อความว่า 'หลังจากที่ถูกส่งไปอยู่ในสวนน้ำแห่งต่าง ๆ ม แสดงโชว์ในน้ำที่เต็มไปด้วยสารเคมี เพื่อให้ได้ปลาตายเป็นรางวัล ม แท้งลูกไปหนึ่งและลูกตายอีกหนึ่ง และต้องอดทนต่อความไม่ถูกสุขลักษณะต่าง ๆ ม เคย์ลาก็ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป'
หลังจากนี้ PETA เตรียมจะจัดงานรำลึกถึงเคย์ลา 2 ครั้ง เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่กลายมาเป็น 'นักโทษ' ตามสวนน้ำต่าง ๆ ทั้งยังทำรายได้มหาศาลให้กับสวนน้ำเหล่านั้น พร้อมกันนี้ PETA ยังได้เรียกร้องให้สวนน้ำปล่อยวาฬที่เหลืออยู่ ไปอาศัยในศูนย์พักฟื้นสัตว์น้ำโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้พวกมันต้องแสดงโชว์ใด ๆ ซึ่งจะเป็นการผิดธรรมชาติอีก
PETA ระบุว่า เคย์ลาเป็นวาฬเพชฌฆาตตัวที่ 42 ที่ตายในสวนน้ำ SeaWorld และหลังจากที่มันเกิดใน SeaWorld San Antonio เมื่อปี 1988 ก็ถูกลำเลียงไปยัง SeaWorld สาขาต่าง ๆ ในหลายเมือง ทำให้ต้องพลัดจากแม่ตั้งแต่ได้ 3 ขวบ แถมยังต้องเดินทางกลับไปกลับมาระหว่างสาขาของสวนน้ำอยู่บ่อยครั้ง โดยสุดท้ายก็มาอยู่ที่ Orlando ได้ยาวนานถึง 13 ปี ซึ่งในกระบวนการทั้งหมดนี้ สัตว์ถูกทารุณกรรมและใช้แรงงานอย่างผิดธรรมชาติ ขณะที่ สวนน้ำทำรายได้และกำไรจากพวกมันอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการดูแลวาฬที่ไม่ได้มาตรฐานแล้ว โครงการเพาะพันธุ์ของสวนน้ำก็ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ได้อย่างหนึ่ง เพราะสัตว์จำนวนมากเกิดความเครียดสะสมจากการ 'บังคับผสมพันธุ์' ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ก็เคยถูกเผยแพร่ในสารคดี Blackfish เช่นกัน ซึ่งหลังจากประชาชนเริ่มรับรู้ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว จำนวนนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการสวนน้ำก็ลดลงอย่างชัดเจน แต่แม้ว่า SeaWorld จะออกมาประกาศยับยั้งโครงการเพาะพันธุ์วาฬ แต่วาฬเพชฌฆาตตัวสุดท้ายที่เกิดในสวนน้ำก็เพิ่งเกิดเมื่อเดือนเมษายน ปี 2017 นี้ และต้องใช้ชีวิตในลักษณะเดิม ๆ ภายในสวนน้ำไปอีกหลายสิบปี ถ้าสวนน้ำไม่ดำเนินการส่งต่อให้ศูนย์อนุรักษ์ หรือปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดู