ไม่พบผลการค้นหา
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย e-Service ของรัฐ พร้อมให้บริการแล้ว 280 บริการ ช่วยประชาชนไม่ต้องเสียเวลาไปติดต่อที่สำนักงาน ย้ำเดินหน้าตามแผนรัฐบาลดิจิทัล

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้มีการติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานบริการของรัฐแบบ e-Service ตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าว่า ณ ปัจจุบันนี้ มีงานบริการในรูปแบบ e-Service เรียบร้อยแล้ว 280 งาน โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการ และให้ประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการจากหน่วยงานของรัฐได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อ ณ สำนักงาน 

ทั้งนี้ แนวทางในการขับเคลื่อนสู่การบริการแบบ e-Service แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก กลุ่มงานบริการที่มีผลกระทบให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น หรือ สนับสนุน ช่วยเหลือให้ภาคเศรษฐกิจ และสังคมที่ประสบปัญหาในภาวะสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและยั่งยืน หรืองานที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศ เช่น ระบบฐานข้อมูลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย การพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน (GAP) พืช ประมง และปศุสัตว์ การช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพผู้ว่างงานให้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน ระบบสนับสนุน SMEs (One ID One SMEs) การตรวจสอบสถานะคดี ระบบ e-VISA ระบบจองคิวพบแพทย์ ระบบการวินิจฉัยโรคและให้คำปรึกษาแนะนำด้านสุขภาพแก่ประชาชน ระบบการให้ความช่วยเหลือและการสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ระบบรับชำระภาษีที่ดิน เป็นต้น

กลุ่มที่ 2 กลุ่มงานบริการที่มีการให้บริการแบบออนไลน์แล้ว แต่เป็นบริการออนไลน์ที่ไม่สามารถให้บริการได้แบบเบ็ดเสร็จ โดยมีบางขั้นตอนประชาชนยังต้องเดินทางไปติดต่อ เช่น ประชาชนสามารถยื่นเรื่อง/ยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ขั้นตอนการติดตามเรื่องชำระค่าธรรมเนียมหรือรับเอกสารราชการ ยังคงต้องเดินทางไปติดต่อ ณ หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น การดำเนินการของงานกลุ่มนี้ จะมุ่งไปที่การยกระดับการให้บริการไปสู่การให้บริการแบบ e-Service ได้แบบเบ็ดเสร็จ ที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่อง/ยื่นขอชำระค่าธรรมเนียม และออกใบอนุญาตได้ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการอนุมัติผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อ 

ในส่วนงาน กลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มงานบริการที่ยังไม่มีการให้บริการแบบออนไลน์การดำเนินการตั้งเป้าที่การพัฒนาให้มีระบบ e-Service ให้ได้อย่างน้อยในระดับที่ประชาชนสามารยื่นเรื่อง/ยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ได้

รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนางานบริการของรัฐในรูปแบบ e-Service เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพงานบริการประชาชนอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งต้องเป็นระบบที่ประชาชนสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาลได้ สำหรับรายชื่องานบริการของรัฐ แบบ e-Service ทั้ง 280 งานนั้น ประชาชนสามารถ เข้าถึงลิงก์บริการได้ทุกวันและเวลา ผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อที่สำนักงาน