ไม่พบผลการค้นหา
'สุทิน' มองกระแส 2 ป. แตกแยก ส่งผลเสียต่อรัฐบาลเอง ไม่เชื่อจะยุบสภาเร็ว เพราะยุบแล้วยังเสียเปรียบ กังขา ส.ว. ยื้อทำประชามติ รธน. ใหม่ ชี้ดีสุดต้องทำพร้อมเลือกตั้ง มอง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่จบสัปดาห์นี้ เผย ศาลปกครองรับคำร้องคุ้มครองประกาศกัญชาชั่วคราวแล้ว กันเหนียวช่วงสุญญากาศ

วันที่ 22 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติโดยแยกทางกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แน่ แต่เป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมที่มีข้อบ่งชี้หลายอย่างว่าอาจไม่ไปด้วยกัน การที่ทั้ง 2 คน อยู่รวมกันหรือแยกจากกันก็มีผลทางการเมืองทั้งสิ้น 

" 2 คนนี้มีผลทำให้การเมืองของประเทศผันผวน ซึ่งไม่มีผลกับฝ่ายค้าน แต่มีผลกับฝ่ายรัฐบาลเอง และภาพรวมการเมืองของประเทศ การที่แยกกันเดินอาจทำให้มีการช่วงชิง หักเหลี่ยมกันในรัฐบาล ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้การเมืองไม่ราบเรียบ ประโยชน์ของประชาชนที่จะได้ก็กลับไม่ได้ ทั้ง 2 คนนี้เล่นการเมืองเสียจนแหลกราญ ซึ่งเราคิดว่าถ้าเขาไปด้วยกันได้ดีเรียบร้อย ประชาชนก็จะไม่สับสน" สุทิน กล่าว 

พร้อมกันนี้ สุทิน ยังกล่าวถึงการยุบสภา โดยเชื่อว่าการยุบสภาตอนนี้ไม่ง่าย และไม่เร็ว เพราะคนยุบต้องได้เปรียบ ยุบแล้วเลือกแล้วต้องชนะ แต่วันนี้สถานการณ์ตรงกันข้าม นอกจากนี้ งบประมาณปี 2566 ยังเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามัน จึงไม่เชื่อว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้น 

ขณะกรณีที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อศึกษาญัตติทำประชามติถามประชาชนว่าต้องการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นการยื้อเวลา สุทิน มองว่า ตนก็มีความสงสัยอยู่เช่นกัน เรื่องทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีการพูดมาโดยตลอด ว่าต้องฟังประชาชน เพราะฉะนั้นแก้แบบไม่ทำประชามติก็ทำมาแล้ว และก็ล้มเหลว 

ตอนนี้ตนมองว่าก็ต้องทำประชามติ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และไม่เป็นภาระประชาชน มองว่าควรทำพร้อมกับการเลือกตั้ง แต่ถ้ามองในแง่บวก การที่ ส.ว. ตั้งกรรมาธิการสามารถทำได้ แต่ ต้องรับผิดชอบเวลาให้ทันต่อเวลา ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการว่ายื้อเวลา ถ้าทำไปเรื่อยๆ และไม่รับผิดชอบเรื่องเวลา ก็ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นการยื้อออกไป


มอง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่จบสัปดาห์นี้

สุทิน กล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ จะเป็นการพิจารณาเรื่องกฎหมาย โดยจะมีเรื่อง การเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งบางฝ่ายเห็นว่าการถอดถอนไม่ใช่อำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องการขนส่งทางราง ซึ่งมีข้อเห็นต่างอยู่เพราะหลายฝ่ายเชื่อว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง 

ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่แน่ใจว่าจะเข้าพิจารณาทันหรือไม่ เพราะ 2 ฉบับแรก ใช้เวลาในการพิจารณานาน แต่ถ้าได้เข้าก็ไม่น่าจะพิจารณาไม่จบและคาดว่าน่าจะต้องไปพิจารณาต่อในสัปดาห์หน้า ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพิจารณาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่อจากคาดว่าจะมีผู้อภิปรายจำนวนมาก สำหรับวันที่ 23 พ.ย.นั้น ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่รัฐบาลจะอนุมัติ โดยจะหารือว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ 

สำหรับเรื่องการขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวในประกาศเกี่ยวกับกัญชาของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ตนทราบว่าศาลรับคำร้องแล้วเมื่อวานนี้ และจะต้องเรียกผู้ร้องไปไต่สวน หลังจากนี้เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะเป็นเรื่องการคุ้มครองชั่วคราว ฝ่ายค้านหวังว่าการออกกฎหมายนี้จะใช้กัญชาอย่างรอบคอบที่สุด ในช่วงที่ยังไม่รู้ว่ากฎหมายจะผ่านหรือไม่ แต่ประกาศของกระทรวงฯได้มีการใช้กัญชาไปแล้ว ซึ่งถ้ารัฐบาลไม่มีมาตราการอะไรที่ดีพอ ก็ควรให้ศาลฯยกเลิกประกาศของกระทรวงฯออกไปก่อน 

"ถ้ามีกฎหมายแล้ว กฎหมายผ่านแล้ว กระทรวงฯก็กลับประกาศใหม่ได้ เราเพียงอยากจะเซฟช่วงเวลาที่เป็นสุญญากาศ " สุทิน กล่าว